TMB เผยกำไร Q2/60 ยังแจ่ม! เหตุรายได้ค่าธรรมเนียมพุ่ง

TMB เผยกำไร Q2/60 โตเล็กน้อย มาที่ 2.33 พันลบ. หรือ 0.0531 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 8.32% จากปีก่อนมีกำไร 2.15 พันลบ. หรือ 0.0491 บาท/หุ้น หลังรายได้ค่าธรรมเนียมพุ่ง แต่ตั้งสำรองยังสูง ขณะที่งวด 6 เดือนแรก มีกำไร 4.43 พันลบ.หรือ 0.101 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 4.31% จากปีก่อนมีกำไร 4.24 พันลบ. หรือ 0.0969 บาท/หุ้น


ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/60 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.60 และงวด 6 เดือน 2560 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิดังนี้

โดยในไตรมาส 2/60 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ หรือ PPOP PPOP จำนวน 5,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 เทียบกับ 4,764 ล้านบาทในไตรมาส 1/60 ปัจจัยหนุนหลักมาจากการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) คงที่อยู่ที่ร้อยละ 3.20 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.6 จากไตรมาสก่อนหน้าเป็นผลมาจากการขยายตัวของสินเชื่อคุณภาพ สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 จากไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 39

ทั้งนี้ในไตรมาส 2/60 สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจำนวน 603 ล้านบาท จาก ณ สิ้นเดือน ธ.ค 59 มาอยู่ที่ 18,208 ล้านบาท ทำให้ NPL ratio เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 2.53 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.56 โดยธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ (Prudence) และตั้งสำรองฯ อยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 2,282 ล้านบาท ในไตรมาส 2/60 และ 4,523 ล้านบาทสำหรับรอบ 6 เดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 และร้อยละ 16.7 ตามลาดับ ส่วนอัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ร้อยละ 140 ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 60

นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเป็นจำนวน 6,198 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.6 จากไตรมาสก่อนหน้าและร้อยละ 0.4 จากปีก่อนหน้า โดยมีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 จากไตรมาสก่อน แต่ลดลงร้อยละ 3.2 จากปีก่อน  มาอยู่ที่ 8,687 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อคุณภาพ ส่วนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 จากไตรมาสก่อน แต่ลดลงร้อยละ 11.1 จากปีก่อน มาอยู่ที่ 2,489 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/60 ธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจำนวน 3,309 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.9 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและร้อยละ 41.2 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิมีจำนวน 2,827 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.0 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและร้อยละ 47.6 เทียบกับไตรมาส 2 ของปีก่อน

โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายกองทุนรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จากไตรมาสก่อน และรายได้ค่าธรรมเนียมแบงก์แอสชัวรันส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 123 จากไตรมาสก่อน ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมการขายแบงก์แอสชัวรันส์และค่าธรรมเนียมการเข้าถึงช่องทางการให้บริการของธนาคาร (Access fee) ซึ่งได้รับจากการต่อสัญญาความร่วมมือการเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร (Bancassurance) ระหว่างธนาคาร และ บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

Back to top button