SEAFCO คว้างานใหม่ 245 ลบ. เดินหน้าประมูลงานเสาเข็มเพิ่ม

SEAFCO รับข่าวดี คว้างานใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 245 ล้านบาท ตุน Backlot แน่น 2,100 ล้านบาท พร้อมบุ๊กรายได้เข้าปี 60 แน่น 1,000 ล้านบาท เดินหน้าประมูลงานเสาเข็มเพิ่มอีก 170 โครงการ


นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2560 ทางบริษัทได้รับงานใหม่ในงวดของเดือน ก.ค.60 เป็นจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ KSS Mixed – Used Development และ โครงการ อาคาร ที อาร์ อาร์ คิดเป็นมูลค่ารวม 245,000,000 บาท

โดยงานดังกล่าว แบ่งเป็น ดังนี้ 1. โครงการ KSS Mixed – Used Development ที่ถนนพระราม 4 กรุงเทพมหานคร มีลักษณะเป็นงานเสาเข็มเจาะ และกำแพงกันดินระบบไดอาแฟรมวอลล์ ซึ่งมี บริษัท เกษมทรัพย์ศิริ จำกัด เป็นผู้ว่าจ้าง กำหนดเริ่มงานในช่วงต้นเดือน ส.ค.60

2.โครงการ อาคาร ที อาร์ อาร์ ที่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ กรุงเทพมหานคร มีลักษณะเป็นงานเสาเข็มเจาะ ซึ่งมี บริษัท ที อาร์ อาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้ว่าจ้าง กำหนดเริ่มดำเนินการก่อสร้างกลางเดือนส.ค. 2560 ดังนั้น จากการเข้ารับงานทั้ง 2 โครงการข้างต้น ที่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มคิดเป็นเงินรวม 245,000,000.00 บาท

ทั้งนี้ ในปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (แบ็กล็อก) จำนวน 2,100 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากในช่วงต้นปี 2560 ที่อยู่ระดับ 1,600 ล้านบาท แบ่งเป็นงานเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียม, โรงพยาบาล, ศูนย์การค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจากจากกภาคเอกชน 70% และงานจากภาครัฐ 30% โดยมีงานที่รับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และทยอยรับรู้รายได้ในปี 61 ประมาณ 1,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันทางบริษัทยังได้ยื่นการประมูลงานเสาเข็มเจาะ จำนวน 170 โครงการจากบริษัทภาคเอกชน มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอทราบผลการประมูลงาน นอกจากนี้ ยังคาดจะมีงานเสาเข็มเจาะ โครงการรถไฟฟ้าจาก บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ที่จะเข้ามาอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถระบุระยะเวลาที่ชัดเจนได้ ส่วน โครงการหอชมเมืองกรุงเทพ ปัจจุบันยังไม่ได้รับการติดต่อเข้ามาทางบริษัท

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงาน ในช่วงไตรมาส 2/60 ยังต้องรอประเมินอีกครั้ง เนื่องจากเป็นช่วงไตรมาสที่มีวันหยุดเทศกาลและงานดำเนินการน้อย อย่างไรก็ตาม ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะมีรายได้และกำไร ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น รวมถึงมีงานเสาเข็มเจาะเข้ามาเป็นจำนวนมาก พร้อมกับตั้งเป้ารายได้ในปี 60 อยู่ที่ระดับ 2,000 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,878 ล้านบาท

อีกทั้ง บริษัทยังได้งานเสาเข็มเจาะก่อสร้างอาคารสูงในประเทศพม่าจำนวน 1 งาน มูลค่า 100 ล้านบาท ระยะเวลา 6 เดือน โดยกำหนดเริ่มดำเนินงานในช่วงเดือน ต.ค.– พ.ย.60 และตั้งงบลงทุนจำนวน 100 ล้านบาท เพื่อสั่งซื้อเครื่องจักรที่ใช้ในการขุดเจาะเสาเข็มเพิ่ม โดยได้กำเนินการซื้อเครื่องจักรแล้วจำนวน 3 เครื่อง และจะมีการซื้อเพิ่มเติมอีกในช่วงครึ่งปีหลังอีกจำนวน 1-2 เครื่อง เพื่อรองรับงานที่เพิ่มเติมต่อเนื่อง

Back to top button