อารมณ์พาไป!

*ทุกครั้งที่ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์เรื่องอะไรชาวบ้านชาวช่อง มักมีเหตุการณ์อื่นเข้ามาแทรกเป็นประจำ ส่งผลให้หัวข้อในการเผือกต้องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จนแฟนคลับบางส่วนเริ่มเกิดอาการเซ็งไปตามกันนั้น เดี๊ยนถือเป็นเรื่องของฟิลลิ่งล้วนๆ เสื้อผ้าไม่เกี่ยว ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาตั้งนาน จึงไม่ควรคาดหวังอะไรที่มากไปกว่านี้ เพราะโลกของการลงทุนยังไม่แน่นอน แล้วจะมาเอาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อารมณ์มักขึ้นๆ ลงๆ ล่ะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ทุกครั้งที่ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์เรื่องอะไรชาวบ้านชาวช่อง มักมีเหตุการณ์อื่นเข้ามาแทรกเป็นประจำ ส่งผลให้หัวข้อในการเผือกต้องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จนแฟนคลับบางส่วนเริ่มเกิดอาการเซ็งไปตามกันนั้น เดี๊ยนถือเป็นเรื่องของฟิลลิ่งล้วนๆ เสื้อผ้าไม่เกี่ยว ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาตั้งนาน จึงไม่ควรคาดหวังอะไรที่มากไปกว่านี้ เพราะโลกของการลงทุนยังไม่แน่นอน แล้วจะมาเอาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อารมณ์มักขึ้นๆ ลงๆ ล่ะค่ะ

*เหมือนกับการลงทุนในตลาดหุ้นยามนี้ มองไปทางไหน ก็มีแต่เรื่องชวดปวดหัว ข่าวดีแบบบูรณาการเป็นเพียงคำโกหก เพื่อชวนให้ทุกคนเชื่อว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในไม่ช้า พอเอาเข้าจริงๆ ก็กลายเป็นไส้ในกลวงโบ๋ “โมนิก้า” ถึงต้องถามแฟนคลับอีกครั้ง ดัชนีกระชากขึ้นมาปิดที่ 1,576.73 จุด บวกไป 3.22 จุด ด้วยมูลค่า 3.57 หมื่นล้านบาท ใช่ของแท้หรือเปล่า?

*หากคิดว่า ไม่ใช่อย่างนั้นอย่างแน่นอน ก็ไม่มีความจำเป็นต้องนั่งบวกลบคูณหาร เพราะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ เขานิยมวัดกันที่เรื่องความไว จังหวะไหนมีโอกาสเข้าทำ ต้องรีบเข้าทำในทันที เพราะสเต็ปของการทะยานขึ้นของดัชนียังเป็นลักษณะ “บันไดขาขึ้น” กับ “บันไดขาลง” และกรอบหลักในการเคลื่อนไหวยังอยู่ที่ระดับ 1,560-1,580 จุด วันนี้ถึงต้องถามว่า แล้วมองแนวต้าน 1,600 จุดเป็นอย่างไรค่ะ

*ทั้งหมดเป็นเรื่องเดิมๆ ที่เดี๊ยนมักหยิบยกขึ้นมาแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นประจำ แถมแฟนคลับยังคงตอบรับเรื่องดังกล่าวอย่างล้นหลาม “โมนิก้า” จึงขอปรบมือดังๆ ให้กับพลพรรคแมงเม่าที่ฉวยโอกาสเทขายหุ้นไป — พันล้านบาท ขณะที่กองทุนตัวแสบดอดเข้ามาเก็บหุ้นไป — พันล้านบาท มันเป็นมุกเดิมๆ ที่ทุกคนเห็นจนชิน และพอเดาออกว่า วันต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นใช่ไหมจ๊ะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นของหุ้น EA มันเกิดจากผลงานอันยอดเยี่ยมกระเทียมดอง สถานการณ์ของบริษัทถึงดูดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บวกกับฝรั่งตาน้ำข้าวให้ราคาเป้าหมายสูงลิบลิ่ว จึงเข้ามาไล่ราคากันอย่างเมามัน วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 36.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 711 ล้านบาท เดี๊ยนบอกได้แค่ว่า รอบก่อนวิ่งขึ้นไปถึง  37.50 บาท รอบนี้จะขึ้นไปไกลกว่าจุดเดิมแค่ไหน? ต้องตามไปดูเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SCC พยายามเทคตัวขึ้นตลอดเวลา และพยายามรักษาฐานแนวรับให้อยู่เหนือระดับ 500 บาทตลอดเวลา ถึงมีแรงซื้อเข้ามาไล่หุ้นเป็นประจำเมื่อบรรยากาศเป็นใจ ล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ — บาท บวกไป — บาท ด้วยมูลค่า 1.13 พันล้านบาท พร้อมกับแสดงอาการจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 512 บาทอีกครั้ง น่าจะลองเคาะขวาเบาๆ กันบ้างนะคะ

*ย้อนกลับมาดูหุ้น ADVANC กันบ้างดีกว่า! เนื่องจากสถานการณ์ของหุ้นดีขึ้นเป็นลำดับ จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่  188.50 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่า 1.23  พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นมิติใหม่ที่ทำให้นักลงทุนแห่ตามกันอีกพักใหญ่ๆ แถมเป็นการวิ่งเข้ามาใกล้แนวต้าน 190 บาทเป็นครั้งที่ 2 วันนี้ถึงเป็นจังหวะของการโหนกระแสพะยะค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่กระแสดีต้องยอมให้กับ BCPG ราคาหุ้นยกตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 15.30 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่า 400 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่ทุกคนรู้ว่า ของเขากำลังอยู่ในช่วงขึ้นหม้อ ธุรกิจก้าวล้ำไปอีกขั้น บวกกับได้ผู้สนับสนุนเงินทุนในการทำธุรกิจอีก 1 หมื่นล้านบาท   วันนี้ถึงไม่ต้องพุดพร่ำทำเพลงอะไรอีกต่อไป เพราะจังหวะนี้ต้องลุยสุดตัวเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ TRUE วันนี้ยังมีควันหลงเรื่องตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 1  น่าจะเป็นลางบอกเหตุให้นักลงทุนต้องสาดหุ้นทิ้ง เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะถือหุ้นอีกต่อไป ราคาหุ้นถึงรูดลงมาเรื่อยๆ จากก่อนหน้านี้เคยยืนอยู่แถว 7 บาท ล่าสุดลงมายืนที่ระดับ 5.60 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่า 796 ล้านบาท มันหมายความว่า ไม่มีใครอยากเข้าไปรับเผือกร้อนชิ้นนี้นะจะบอกให้

*ตรงนี้เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ KCE กับ HANA(กะไม่พูดถึง แต่ต้องพูดถึงอีกจนได้) มันเป็นภาพสะท้อนอาการไม่แฮปปี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ หนทางเดียวคือต้องทิ้งหุ้นออกไปก่อน “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นรูดลงมาปิดที่ 93.50บาท ลบไป 6.25 บาท หรือลงไป 6.30% ด้วยมูลค่า 1.30 พันล้านบาท ส่วนรายหลังทรุดลงมายืนอยู่ที่ 42.50 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 5.50% ด้วยมูลค่า 310 ล้านบาท มันคือผลพวงจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง อาจทำให้บริษัทต้องบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนพะยะคะ

*คล้ายคลึงกับความผิดปกติของหุ้น AMA ซึ่งโดนเทขายแบบมาราธอน จาวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 18.90 บาท ลบไป 1.70 บาท หรือลงไป 8.25% ด้วยมูลค่า 555 ล้านบาท “โมนิก้า” กล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า เรื่องนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน! เพราะหลายคนก็รู้ดีว่า กำไรปีนี้น่าจะออกมาค่อนข้างดี แต่หุ้นกลับโดนถล่มอย่างหนักหน่วง เดี๊ยนขอแนะนำว่า อย่าเข้าไปยุ่งดีกว่า..อิอิอิ

Back to top button