ก.ล.ต.ชี้ EARTH อาจผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์ หลังหนี้บวมเป็น 4.7 หมื่นลบ.

ก.ล.ต.ชี้ EARTH เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์ หลังพบหนี้โผล่เพิ่มเป็น 4.7 หมื่นล้านบาท-รอส่ง Special Audit ชี้แจง


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 หลังพบว่ามูลค่าหนี้เพิ่มขึ้นจากที่เคยเปิดเผยไว้ ซึ่งต้องรอการชี้แจงรายงานการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ที่ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.มีคำสั่งให้บริษัทจัดทำขึ้น

ทั้งนี้ ก.ล.ต.จะติดตามหลักฐานที่ EARTH ยื่นต่อศาลล้มละลายกลางตามที่ได้ร้องขอเข้ากระบวนการฟื้นฟูกิจการว่ารายการหนี้สินต่างๆ ที่ระบุนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ หากมีอยู่จริงก็เป็นหลักฐานที่จะนำไปใช้ตรวจสอบได้ว่าในงบการเงินเดิมที่แจ้งไว้มีหนี้สินดังกล่าวอยู่หรือไม่ และรอผลจากผู้สอบบัญชีตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษชี้แจงในรายละเอียดด้วย

อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถตอบได้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการผิดหลักธรรมมาภิบาล (CG) ของผู้บริหารหรือไม่ เพราะต้องรอดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อน จากนั้น ก.ล.ต.จึงจะมาดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะแยกออกเป็นกรณี ซึ่ง ก.ล.ต.ทำได้แค่ในเรื่องของคดีแพ่ง แต่หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตจะเป็นเรื่องของคดีอาญา ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการ

นอกจากนี้ ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีการเข้าไปตรวจสอบผู้ตรวจสอบบัญชีรายเดิมของ EARTH ด้วยว่าเหตุใดจึงไม่พบความผิดปกติของงบการเงิน และหนี้สิน แต่ยังไม่สามารถพูดได้ว่าจะมีความผิดหรือไม่ผิด

จากที่ ก.ล.ต.ให้ EARTH ตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอเวลาให้ EARTH ยื่นต่อศาลฯ ว่ารายการหนี้ที่ปูดขึ้นมามีอยู่จริงหรือไม่ ถ้ามีจริงก็จะใช้เป็นหลักฐานที่ตอนแรกแจ้งว่าไม่มี ทำไมอยู่ๆ ถึงแจ้งขึ้นมา และที่ขอผ่อนผันเรื่องการตั้งผู้สอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษ แต่ทาง ก.ล.ต. ไม่อนุญาต ก็เพื่อเป็นการดูว่าหนี้ก้อนนี้มีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่มีจริงหรือมี แต่ไม่ลงบันทึกในงบ คณะกรรมการของ EARTH ก็ต้องที่มีความรับผิดชอบทั้งในด้านแพ่งและอาญา”นายรพี กล่าว

ส่วนกรณีที่มีบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเรื่องปกติในการดำเนินธุรกิจของตลาดทุน นักลงทุนต้องศึกษาให้รอบคอบก่อนที่จะลงทุนในบริษัทนั้นๆ โดยนักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลของผู้บริหารตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มีธุรกิจอื่นนอกเหนือจากธุรกิจหลักหรือไม่ ความสามารถในการทำธุรกิจประเมินแล้วดีมากน้อยแค่ไหน

การเข้าขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท เป็นเรื่องปกติของวงจรชีวิต นักลงทุนต้องดูข้อมูลให้ดีว่ามี CG หรือไม่ ผู้บริหารเป็นใคร มีการการแตกไลน์ธุรกิจอย่างไร และความสามารถในการปรับโมเดลธุรกิจเป็นไปได้หรือไม่”นายรพี กล่าว

ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า หลังจากที่ ตลท.ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมไปยัง EARTH ในกรณีบริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากพบว่าข้อมูลในงบการเงินของบริษัทที่แจ้งมาพร้อมกับการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการน่าจะมีความผิดปกติ ซึ่งไม่สอดคล้องกับงบการเงินที่ได้นำส่งมายัง ตลท.ก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตาม การขอฟื้นฟูกิจการเกิดขึ้นได้ในหลายสาเหตุ ทำให้ ตลท.ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติม และเพื่อให้เป็นข้อมูลในการลงทุนให้แก่นักลงทุนด้วย

การผิดปกติของ EARTH จากในวันที่ส่งงบมา พร้อมกับการฟื้นฟูกิจการ บอกว่าไม่สามารถชำระหนี้ตั๋วระยะสั้น (B/E) ได้ ตลาดฯ ก็มีข้อสงสัยในการขอฟื้นฟูกิจการ จึงได้ขอคำอธิบาย เพราะเกิดความผิดปกติ ทำให้ทาง ก.ล.ต.มีการสั่งให้ตั้ง Special Audit เพื่อเข้าตรวจสอบงบการเงินของ EARTH”นางเกศรา กล่าว

 

อนึ่งเมื่อวันที่ 31 ก.ค.60 EARTH แจ้งมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 31,828 ล้านบาท และหนี้สินรวมทั้งสิ้น 47,480 ล้านบาท จากคู่ค้ายื่นฟ้องยอดหนี้รวม 26,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีหนี้้สินมากกว่าทรัพย์สิน ซึ่งก่อนหน้านี้ EARTH แจ้งว่าบริษัทมีหนี้สินจำนวน 21,480 ล้านบาท

Back to top button