ยืนได้…ก็สดชื่น

*วันนี้เดี๊ยนขอเบรกอารมณ์ร้อนๆ ของผู้คนที่กำลังด่าไฟแลบคนในแวดวงธนาคารที่ยอมขายความลับของลูกค้าอย่างหน้าด้านๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จรรยาบรรณของคนธนาคารไม่มีอยู่จริง! จึงขอหยุดพักประเด็นร้อน เพื่อหันหน้าเข้าสู่เรื่องเย็นๆ สบายๆ ก่อนจะหยุดยาวช่วงวันแม่ จึงขอให้ลูกๆ ทุกคนรักคุณแม่ให้มากๆ เหมือนเช่นที่ “โมนิก้า” บอกรักแม่ทุกวันด้วยนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้เดี๊ยนขอเบรกอารมณ์ร้อนๆ ของผู้คนที่กำลังด่าไฟแลบคนในแวดวงธนาคารที่ยอมขายความลับของลูกค้าอย่างหน้าด้านๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จรรยาบรรณของคนธนาคารไม่มีอยู่จริง! จึงขอหยุดพักประเด็นร้อน เพื่อหันหน้าเข้าสู่เรื่องเย็นๆ สบายๆ ก่อนจะหยุดยาวช่วงวันแม่ จึงขอให้ลูกๆ ทุกคนรักคุณแม่ให้มากๆ เหมือนเช่นที่ “โมนิก้า” บอกรักแม่ทุกวันด้วยนะคะ

*ก่อนจะเข้าสู่หุ้นรายตัว “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุนที่ทำท่าจะไปไม่รอด หลังดัชนีรูดลงมาถึงระดับ 1,566.45 จุด ก็ทำให้นักเล่นเกิดอาการขวัญกระเจิงกันเป็นแถว เพราะเชื่อว่า ดัชนีจะไหลลงไปถึงระดับ 1,550 จุด แต่ในระหว่างนั้นกลับมีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาดันดัชนีอีกรอบ จนท้ายสุดขึ้นมายืนปิดที่ 1,571.64 จุด บวกไป 0.13 จุด ด้วยมูลค่า 3.32 หมื่นล้านบาท มันทำให้สถานการณ์โดยรวมยังทรงตัวนะจะบอกให้

*ตรงนี้เป็นประเด็นที่ “โมนิก้า” อยากให้นักลงทุนทำความเข้าใจเพิ่มอีกนิดหนึ่งว่า หากดัชนียังยืนอยู่แบบนี้..มันก็สดชื่นกันอย่างถ้วนหน้า หากวันนี้ไม่สามารถรักษาฐานแนวรับดังกล่าวได้อย่างเหนียวแน่น มันก็เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องใส่เกียร์ถอยเต็มตัว เพราะโพสิชั่นของดัชนีถูกกำหนดไว้ในลักษณะนี้ตั้งแต่ต้น เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่หุ้นหลายตัวมีอาการผลุบๆ โผล่ๆ ตลอดเวลาเจ้าค่ะ

*เรื่องนี้เทียบได้กับการขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้น BH ก่อนจะลงเอ่ยที่ระดับ 195.50 บาท บวกไป 8 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่า 960 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่สัมพันธ์โดยตรงกับกำไรเติบโต ถึงมีการเข้ามาไล่ราคากันอย่างคึกคัก แต่ข้อมูลที่น่าสนใจมากสุดในเที่ยวนี้ดันอยู่ที่ หุ้นขึ้นมาใกล้ยอดเก่า แถมยังเทรดกันบน P/E 37 เท่า วันนี้ยังจะไปไหวหรือเปล่า?

*ส่วนในรายของ CPF  เห็นผงกหัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลงเอ่ยด้วยการปิดที่ 27 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่า 2.18 พันล้านบาท  “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะของการดีดกลับรอบใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม หลังจากโดนถล่มทิ้งเป็นเวลานานนั้น มันเป็นจังหวะที่ต้องชั่งใจมากพอสมควร เพราะสัญญาณเทคนิคบางตัวยังคงอ่อนแอแบบนี้..หืดขึ้นคอแน่ๆ เจ้าค่ะ

*ผิดกับในรายของ TOP กระชากขึ้นอย่างเนิบๆ เป็นเวลายาวนาน จนวานนี้ลงเอ่ยที่ระดับ 89 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่า  883 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตวัดใจนักเล่นอย่างแท้จริง เพราะเป็นการทำ new high อย่างต่อเนื่อง หากวันนี้แรงซื้อไม่มากพอ ก็มีโอกาสทรุดตัวลงแรง ก่อนจะแกว่งตัวหาฐานแนวรับ ต่อจากนั้นถึงดีดตัวขึ้นต่อ จังหวะนี้ถึงต้องวางแผนการเล่นให้ดีๆ นะจะบอกให้

*เหมือนกับการทะยานขึ้นของม้านอกสายตาอย่าง TEAM  เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยโผล่หัวมาให้เห็น พอประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 พลิกมีกำไรจำนวนมาก แรงซื้อก็ไหลบ่าเข้ามาเป็นจำนวนมาก “โมนิก้า” ถือเป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องจับจังหวะการเล่น “เกมบุก” กับ “เกมรับ” ให้แม่นยำ หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.95 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 14% ด้วยมูลค่า 326  ล้านบาท มันเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ต่อจากนั้นก็กลับไปแย่เหมือนเดิมนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SUPER หากมองถึงคงวามตั้งใจในการทำธุรกิจ “โมนิก้า” ถือเป็นคนที่น่าชมเชยคนหนึ่ง แต่ถ้าดูจากพฤติกรรมของราคาหุ้น มันน่าจับมาตีก้นเสียให้เข็ดหลาบสักที เผอิญคนบางกลุ่มในแวดวงตลาดหุ้นเป็นประเภทถึงไหนถึงกัน จึงเอาข่าวใหม่ๆ มาบิ้วด์อารมณ์กันตลอดเวลา แต่ผู้คนทั่วไปดันไม่อินกับสิ่งที่เกิดขึ้น หุ้นถึงทรุดตัวลงมายืนที่ 1.23       บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่า 197 ล้านบาทไงล่ะค่ะ

*ไหนๆ เม้าท์ถึงหุ้นร้อนทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนรอยกลับไปดูหุ้น PACE เพื่อบอกให้แฟนคลับทั่วไปรู้ว่า การขึ้นรอบนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น รวมถึงแผนธุรกิจมีความคืบหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ หุ้นเลยเด้งขึ้นมาปิดที่ 2.26 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 11.90% ด้วยมูลค่า 190 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูให้มันรู้เรื่อง เพราะหุ้นเพิ่งขึ้นแรงวันแรกนะซี

*เหมือนกับในรายของ INGRS อยากจะกลับมาดันราคาหุ้น ก็ดันกันดื้อๆ “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า เรื่องนี้มันเป็นอะไรที่ “ต้องคิด วิเคราะห์ แยกแยะ” มากพอสมควร เพราะถ้าย้อนความกลับไปดูจะเห็นว่า ราคาเป้าเที่ยวนี้ให้กันไว้ที่ 1.90 บาท  จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากวันนี้จะดันหุ้นกันอีกวัน หลังวานนี้หุ้นขึ้นมายืนแค่ระดับ 1.50 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 6.40%  ด้วยมูลค่า 980 ล้านบาทเท่านั้นเอง

*ตบท้ายกันที่เผือกร้อนของหุ้น EARTH หลังบรรดาแมงลือเม้าท์กันสนุกสนานว่า มีคนขันอาสาทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้หลายเจ้าด้วยกัน แต่สุดท้ายจบลงตรงที่อดีตผู้พิพากษา  พ.  พร้อมกับมีการแนะนำให้สร้างหนี้ขึ้นมาเยอะๆ เพื่อให้เข้าตามหลักเกณฑ์แผนฟื้นฟูกิจการ และสาเหตุที่ต้องการสร้างหนี้จำนวนมหาศาล เพื่อจะเอามูลหนี้ดังกล่าวมาโหวตแข่งกับเจ้าหนี้กรุงไทย  เพื่อจะได้ทำแผนเองแบบนี้..จริงหรือไม่? เดี๊ยนก็ฟังเขามาอีกทีหนึ่งค่ะ

Back to top button