มาเร็ว ไปเร็ว

*หากดูรูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีตั้งแต่ต้นปี 60 เซียนเทคนิคทุกรายคงเข้าใจแพตเทิร์น M-Shape ได้เป็นอย่างดี เพราะดัชนีเคลื่อนตัวไปมาในลักษณะนี้มาแล้ว 1 รอบ และดูเหมือนรูปแบบดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นอีกรอบ “โมนิก้า” ถึงอยากให้ผู้เล่นทำความเข้าใจก่อนกระโดดเข้าไปตะลุมบอน เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ดัชนีกำลังเด้งขึ้น ก่อนจะทิ้งตัวในภายหลังนะซี


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากดูรูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีตั้งแต่ต้นปี 60 เซียนเทคนิคทุกรายคงเข้าใจแพตเทิร์น M-Shape ได้เป็นอย่างดี เพราะดัชนีเคลื่อนตัวไปมาในลักษณะนี้มาแล้ว 1 รอบ และดูเหมือนรูปแบบดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นอีกรอบ “โมนิก้า” ถึงอยากให้ผู้เล่นทำความเข้าใจก่อนกระโดดเข้าไปตะลุมบอน เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ดัชนีกำลังเด้งขึ้น ก่อนจะทิ้งตัวในภายหลังนะซี

*เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อยากให้มองการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,569.62 จุด บวกไป 3.09 จุด ด้วยมูลค่า 3.62 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นไซเคิลเดิมๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพราะหุ้นตัวที่ค้ำยันตลาดหุ้นไทยยังเป็นหน้าเดิมๆ ส่วนหุ้นที่ถูกเทขายหลังนักเล่นมีอาการแพนิก ก็กลับขึ้นมายืนที่เดิมได้อีกครั้ง ส่วนหุ้นที่ไม่มีภูมิคุ้มกันอันแข็งแกร่ง ก็มีอันต้องร่วงโรยไปตามระเบียบ มันเป็นภาพที่ผู้เล่นต้องหัดเรียนรู้เพื่อเข้าใจธรรมชาติของหุ้นมากขึ้นกว่าเดิมนะจ๊ะ

*เนื่องจากผู้เล่นแต่ละกลุ่มยังเล่นหุ้นในลักษณะ “มาเร็ว ไปเร็ว” ไม่มีการเก็บหุ้นไว้ในพอร์ตนานๆ ส่งผลให้การขยับขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป เพราะเมื่อขึ้นมาถึงยอดเดิมมักมีแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงยืนยันคำเดิมว่า ภาพของการลงทุนวันนี้ วันถัดไป หรือวันต่อไป ยังไม่มีอะไรที่ทำให้เชื่อว่าแล่นฉิวนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ BGRIM กระชากขึ้นมาปิดราคาสูงสุดของวันที่บริเวณ 19.50 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่า 1.78 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่นักเล่นต้องเริ่มคิดอีกครั้งว่า วันนี้ยังกล้าเล่นตามน้ำอีกไหม? เพราะเที่ยวก่อนขึ้นมาถึงบริเวณนี้ปุ๊บ ต่อจากนั้นก็โดนเทขายปั๊บ แถมรูปแบบนี้มีคนเดียวที่ทำได้ก็คือ กองทุนตัวแสบ หากวันนี้ไปต่อ รับรองฉลุย..หากเริ่มหมดแรง ใส่เกียร์ถอยโลดเจ้าค่ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวเทียบได้กับหุ้น AOT โดนรินหุ้นออกมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายลงมายืนปิดที่ 51.25 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 2.85% ด้วยมูลค่า 2.88 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นผลสืบเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ก่อนที่โดนเทขาย ต่อจากนั้นหุ้นพยายามถีบตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ทำได้แค่ประคองตัวออกด้านข้างไปวันๆ ก่อนวานนี้จะโดนจัดชุดใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้สถานการณ์ของหุ้นดูไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่นะจ๊ะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ PTT ทะยานขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะลงเอ่ยที่ระดับ 393 บาท บวกไป 4 บาท ด้วยมูลค่า 1.93 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะไล่ตามหุ้นช่วงสั้นๆ เพราะราคาเป้าหมายเบื้องต้นในเที่ยวนี้อยู่แถว 400 บาท หากฝ่าขึ้นไปยืนได้สำเร็จตามที่คาดหวัง ก็มีลุ้นขึ้นไปหายอดแรกที่บริเวณ 410 บาท ต่อจากนั้นน่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 420 บาทตามลำดับนะจ๊ะ

*ส่วนคนที่ชอบลุ้นอะไรมันๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมามอง CPN หลังราคาหุ้นผงกหัวขึ้นเป็นวันแรก พร้อมกับจบสกอร์ที่ 67.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่า 602 ล้านบาท มันตีความได้ 2 ทางคือ “รีบาวด์เพื่อไปต่อ” กับ “รีบาวด์เพื่อลงต่อ” จึงเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องติดตามดูกันเอาเองว่า วันนี้จะไปทางไหน เพราะช่วงนี้เจอพวกสับขาหลอกเยอะมากๆ

*สำหรับรายที่แรงไม่บันยะบันยั้ง “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ SVOA กระชากขึ้นมาปิดที่ 2.08 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 10.65% ด้วยมูลค่า 442 ล้านบาท แถมเป็นการขึ้นติดในกระดาน most active ในรอบหลายปีเสียด้วย ย่อมเล่นกันอีกพักใหญ่ๆ เพราะสตอรี่ที่ถูกปูในเที่ยวนี้เกี่ยวกับการเติบโตของบริษัทล้วนๆ จึงให้แวลูค่อนข้างสูงเป็นพิเศษ บวกกับวันนี้หุ้นเทรดบน P/E 16 เท่า เล่นกันได้อีกหลายยกเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ SPVI น่าจะเป็นของเสี่ยงสำหรับพวกคิดช้า เพราะเป็นเกมที่เข้าทำเร็ว ต่อจากนั้นถอยฉากกันเป็นพรวน “โมนิก้า” ย่อมต้องทักท้วงกันเป็นธรรมดา แถมการเล่นเที่ยวนี้เทรดบนค่า P/E 32 เท่า มันเหมือนกับเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัททำผลงานได้ค่อนข้างดี ก็มีการดันหุ้นขึ้นไปใกล้ๆ 2 บาท ต่อจากนั้นหุ้นก็ร่วงลงมาตลอด ล่าสุดหุ้นกลับขึ้นยืนที่ 1.48 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 7.25% ด้วยมูลค่า 245 ล้านบาท ซ้ำรอยไหม? ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

*น่าแปลกใจในเที่ยวนี้กลายเป็น ZIGA ผลงานในไตรมาส 2 ออกมาดี แผนการเติบโตของธุรกิจในปีนี้ยังดูดี แต่ดันโดนเทขายอย่างหนักหน่วง จนสุดท้ายหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 6.20 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 3.90% ด้วยมูลค่า 162 ล้านบาท โดยที่หุ้นเทรดบนค่า P/E 19 เท่า มองจากมุมไหน หรือมองจากด้านไหน ก็เป็นจังหวะของการทยอยสะสมของไว้ในพอร์ตนะจะบอกให้

*ป.ล.วานนี้กองทุนตัวแสบซื้อหุ้นคนเดียว 2.26 พันล้านบาท ขณะที่ผู้เล่นกลุ่มอื่นเทขายหุ้นอย่างพร้อมเพรียง มันเป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า หุ้นขนาดใหญ่ กับหุ้นขนาดกลางขึ้นแรงมาจากฝีมือของผู้เล่นกลุ่มใดเป็นหลัก แถมเป็นการดันหุ้นก่อนจะมีคำตัดสินคดีสำคัญ พอถึงวันเผาจริงก็คงสาดหุ้นหนักอีกตามเคยแบบนี้ โหดสลัดรัสเซียของแท้ ไม่เชื่อรอดูแล้วกันเจ้าค่ะ

Back to top button