กองทุนดันหุ้น

*ขอเรียนตามตรงว่า การลงทุนในวันนี้ไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายเหมือนกับที่ผ่านมา เพราะผู้เล่นแต่ละกลุ่มเข้าใจถึงนโยบาย “เข้าเร็ว ออกเร็ว” จึงยอมรับกับปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกสถานการณ์ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อเห็นดัชนีขยับก้นขึ้นมาปิดที่ 1,573.19 จุด บวกไป 3.57 จุด ด้วยมูลค่า 3.68 หมื่นล้านบาท มันเป็นแพตเทิร์นที่เซียนเทคนิคเข้าใจกิมมิคเป็นอย่างดีเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ขอเรียนตามตรงว่า การลงทุนในวันนี้ไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายเหมือนกับที่ผ่านมา เพราะผู้เล่นแต่ละกลุ่มเข้าใจถึงนโยบาย “เข้าเร็ว ออกเร็ว” จึงยอมรับกับปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกสถานการณ์ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อเห็นดัชนีขยับก้นขึ้นมาปิดที่ 1,573.19 จุด บวกไป 3.57 จุด ด้วยมูลค่า 3.68 หมื่นล้านบาท มันเป็นแพตเทิร์นที่เซียนเทคนิคเข้าใจกิมมิคเป็นอย่างดีเจ้าค่ะ

*ยิ่งเห็นดัชนีกวัดแกว่งในลักษณะ “ขึ้นๆ ลงๆ” ที่บริเวณ 1,570 จุด ยิ่งเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า “ขึ้นขาย ลงซื้อ” น่าจะเป็นแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมสุดในจังหวะนี้ วันนี้ถึงเห็นฝรั่งตาน้ำข้าว จูงมือปอบผีฟ้า พ่วงด้วยแมงเม่า ขายหุ้นกันอย่างสนุกมือ ขณะที่กองทุนตัวแสบไล่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตกันอย่างเมามัน ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหุ้นอยู่ในลักษณะแกว่งตัวออกด้านข้างไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับการขยับขึ้นของ KBANK ขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 194.50 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่า 1.13  พันล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า หุ้นกำลังจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 200 บาทอีกรอบ มันเป็นจังหวะที่ต้องเล่นตามโดยไม่มีข้อแม้ เพราะข้อมูลหลายอย่างค่อนข้างเป็นใจ บวกกับเงินทุนยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หุ้นตัวนี้เลยบินฉิวพะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ KTC ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะปิดที่ระดับ 117.50 บาท บวกไป 5 บาท หรือขึ้นไป 4.44% ด้วยมูลค่า 940 ล้านบาท ก็เป็นสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับรายข้างต้น แต่มีจังหวะที่น่าลุ้นมากกว่าหลายช่วงตัว แถมเป็นหุ้นที่มาพร้อมกับสตอรี่โตไม่หยุด วันนี้ถึงไม่มีเวลาอิดออดอะไรทั้งสิ้น เนื่องจาก “เวลา” และ “วารี” ไม่เคยรอใครทั้งนะคะ

*ส่วนในรายของ PACE ยังเป็นอะไรที่คาบลูกคาบดอก อยากจะอธิบายถึงจุดเปลี่ยนของหุ้นเกิดขึ้นหรือยัง? เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยกระชากขึ้นแรงสุดๆ แต่สุดท้ายก็จากไปอย่างไร้ร่องรอย ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 2.34  บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 7.34% ด้วยมูลค่า 297 ล้านบาท “โมนิก้า” บอกได้แค่ว่า หากขึ้นไปยืนเหนือ 2.50 บาทไม่ได้ คงต้องรีบถอยก่อนเจ้าค่ะ

*ที่น่าแปลกใจก็คือ BCP ได้ชื่อเป็นหุ้นพื้นฐานแกร่ง กำไรยอดเยี่ยม แต่วานนี้ดันโดนเทขายทำกำไรอย่างหนักหน่วง จนหุ้นลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 37.25 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมายืนอยู่ที่ 37.75 บาท ลบไป 1  บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่า 274 ล้านบาท ทั้งที่ตอนนี้ซื้อขายบนค่า P/E 9.90 เท่า “โมนิก้า” มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ยังน่าเล่นอยู่ดี แต่ดันมีสัญญาณเทคนิคบางตัวกดหัวให้เห็นทนโท่ จึงต้องเตรียมแผนสำรองไว้บ้างนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ JWD กระชากขึ้นมาปิดที่ 10.40 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ด้วยมูลค่า 323 ล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นจากวันก่อน “โมนิก้า” ถึงต้องออกโรงบอกกับแฟนคลับว่า อย่าอยู่เฉย! เพราะหลายอย่างเริ่มมาอย่างช้าๆ แถมสตอรี่เกี่ยวกับการ “เทิร์นอะราวด์” เริ่มปรากฏให้เห็นชัดขึ้นแบบนี้ ได้เวลาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 11 บาทอีกครั้งแล้วเจ้าคะ

*ส่วนในรายของ PLE กระชากขึ้นแต่ละครั้ง รู้สึกเสียวซ่านไปทุกรูขุมขน “โมนิก้า” ถึงต้องชายตามองเป็นระยะ  เพราะมันคงต้องเล่นกันอีกหลายรอบ หุ้นถึงพุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่  ล่าสุดกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.48      บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 10.45% ด้วยมูลค่า 151 ล้านบาท  พร้อมกับแสดงความต้องการขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1.60 บาทแบบนี้ วันนี้ได้พิสูจน์ว่า “ทำได้” หรือ “ทำไม่ได้” แล้วล่ะค่ะ

*สำหรับรายที่ผ่านกระบวนการพิสูจน์มาระดับหนึ่งอย่าง AMATA มันเป็นช็อตที่ต้องเริ่มคิดกันนิดหนึ่ง หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 17.70 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่า 309 ล้านบาท มันเป็นการเปลี่ยนฐานให้สูงขึ้นเหมือนที่เคยได้คำนวณไว้หรือเปล่า? หากเป็นเหมือนกับที่เม้าท์ให้ฟังเมื่อวันก่อน จังหวะนี้ต้องตามไปดูในทันที! เพราะวันนี้หุ้นจะขึ้นไปทดสอบยอดเก่าแถวบริเวณ 18.50 บาทเป็นครั้งที่ 2 นะซี

*เม้าท์ถึงเรื่องเร็วๆ มันๆ “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับย้อนดูวีรกรรมของหุ้นร้อน SKY หลังแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า “ยังไม่ทันเห็นตาน้ำ ก็รีบตัดกระบอกไม้ไผ่” ล้วนเป็นคำบอกเล่าที่ทำให้รู้ว่า ราคาหุ้นค่อนข้างโอเว่อร์รีแอ๊ค ไม่ว่าจะมองจากมุมผลขาดทุนที่เพิ่งมีให้เห็นหยกๆ หรือแม้กระทั่งค่า BV 0.83 บาทต่อหุ้น กลายเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ราคาปิดที่ 12.40 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4.20%  ด้วยมูลค่า 50 ล้านบาท สูงเกินความจริงนะจะบอกให้

*ตบท้ายกันที่เรื่องของคนรวยสักหน่อย หลังมีข่าว ปตท.ค้าปลีก เตรียมดันร้านสะดวกซื้อของตนเองแบรนด์ “จิฟฟี่” เข้าเสียบแทนร้าน “เซเว่น” ที่ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันของ ปตท. ก็ก่อให้เกิดเสียงเชียร์มากมายว่า อยากให้รีบทำเร็วๆ เพราะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค แถมสินค้ามีความหลากหลายกว่า “โมนิก้า” ถึงสงสัยว่า ทำไมผู้คนมากมายถึงไม่ชอบร้านสะดวกซื้อเจ้านี้เหลือเกิน..ท่านประธาน “ก่อศักดิ์” ช่วยตอบให้หายสงสัยหน่อย..อิอิอิ

Back to top button