เข้าโหมดเซฟตี้โซน!

*ดูเหมือนผู้ช่ำชองในแวดวงตลาดหุ้นจะมีความคิดเห็นต่อ “คดีจำนำข้าว” ค่อนข้างหลากหลาย พร้อมกับพูดถึงผลกระทบที่มีต่อตลาดหุ้นไทยเป็นไปได้ทั้งหนักหน่วง และไม่มีปัญหา จนกลายเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันอย่างเมามันนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของความคิดของแต่ละคน ไม่มีใครหยั่งรู้ผลสุดท้ายปลายทางจะเป็นอย่างไร จึงต้องเผื่อใจกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยนะคะ


เจาะกระดาน :โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนผู้ช่ำชองในแวดวงตลาดหุ้นจะมีความคิดเห็นต่อ “คดีจำนำข้าว” ค่อนข้างหลากหลาย พร้อมกับพูดถึงผลกระทบที่มีต่อตลาดหุ้นไทยเป็นไปได้ทั้งหนักหน่วง และไม่มีปัญหา จนกลายเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันอย่างเมามันนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของความคิดของแต่ละคน ไม่มีใครหยั่งรู้ผลสุดท้ายปลายทางจะเป็นอย่างไร จึงต้องเผื่อใจกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยนะคะ

*ยิ่งเห็นดัชนีกวัดแกว่งถี่ขึ้นตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอ่ยที่ระดับ 1,573.38 จุด บวกไป 0.19 จุด ด้วยมูลค่า 3.56 หมื่นล้านบาท ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณให้เหล่านักเล่นได้รู้ว่า ไม่มีใครกล้าเข้าไปไล่ราคาหุ้นแบบสุดซอยเหมือนเมื่อก่อน ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังไร้ทิศทางเหมือนเดิม และเมื่อดูจากอาการกล้าๆ กลัวๆ ของเหล่านักเล่นที่แสดงให้เห็นชัดเจน มันถึงเวลาที่ต้องเข้าโหมดเซฟตี้โซนแล้วล่ะค่ะ

*เหมือนกับประเด็นที่กำลังเป็นข่าวใหญ่โตระหว่าง PTT กับร้านสะดวกซื้อ CPALL ในมุมของนักถอดรหัสก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการเขี่ยทิ้งให้พ้นทางให้เร็วที่สุด แต่ในทางพฤตินัยไม่สามารถแสดงอะไรที่โฉงฉ่างมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว “โมนิก้า” ถึงอยากให้แมงเม่าเข้าใจสถานการณ์ของคำว่า ปตท. ให้เวลาอีกแค่ 5 ปีเท่านั้น มันสะท้อนอะไรหลายอย่างได้เป็นอย่างดีนะคะ

*สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดก็คือ แผนขยายสาขาของ “เซเว่น” น่าจะมีปัญหาอย่างแน่นอน และน่าจะทำให้รายได้และกำไรไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ จนบรรดาแมงลือเม้าท์กันอย่างสนุกปาก ตอนนี้คงรู้ซึ้งถึงการโดนเขี่ยทิ้งมันเป็นอย่างไร? หลังจากเคยทำกับคนอื่นไว้อย่างเจ็บแสบ(เปิดเซเว่นล้อมหน้าล้อมหลัง) “โมนิก้า” ในฐานะคนกลางก็ได้แต่รับฟังสิ่งที่เกิดขึ้น และนำมาบอกเล่าเท่านั้นเองจ้า!

*เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหุ้น TWZ ในยุคที่ขรัวเฒ่า ว. กลับมาเรืองอำนาจ พร้อมกับแสดงบทบาท “เจ๊ดัน” แบบสุดติ่งกระดิ่งแมว แถมออกมาการันตรีธุรกิจพลังงานที่กำลังปั้นจะเป็นตัวหนุนให้บริษัทนี้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง “โมนิก้า” ถือเป็นการวาดฝันที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เผอิญผลงานของขรัวเฒ่าในช่วงหลังไม่เข้าฝัก บวกกับชาวบ้านแซวเรื่อง CTH ตลอดเวลา เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 0.26 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 4% เป็นเกมของพวกหมูไม่กลัวน้ำร้อน (หมูตาย) นะจะบอกให้

*หากมองเกมดังกล่าวไม่ออก “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มอง AMANAH เป็นกรณีศึกษา หลังโดนถล่มอย่างหนักเป็นเวลาหลายวัน จากช่วงเดือน เม.ย. พุ่งขึ้นไปยืนแถว 2.50 บาท พอถึงช่วงต้นเดือนลงมายืนอยู่ที่บริเวณ 1.70 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นทิ้งตัวลงหนักมาที่ 0.94 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 14.55% ด้วยมูลค่า 103 ล้านบาท  เดี๊ยนขอบอกตรงๆ นี่เป็นช็อตถอยเต็มตัว ไม่ควรเอามือเข้าไปรับเผือกร้อนเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ETE กำลังอยู่ในช่วงขาลงแบบเต็มตัวทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาหุ้น หรือเรื่องผลกำไรที่ทำได้แต่ละไตรมาส จนนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรปีนี้มีไม่น่าจะถึง 100 ล้านบาท เลยเป็นเหตุให้ผู้เล่นพากันกระหน่ำทิ้งหุ้นแบบไม่ดูดำดูดี วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 3.12 บาท ลบไป 0.34 บาท หรือลงไป 9.80% ด้วยมูลค่า 100 ล้านบาท ก็ยังไม่ใช่จุดที่รับของอยู่ดี เพราะหุ้นยังเทรดบนค่า P/E 44 เท่าอยู่เลยจ้า

*ส่วนในรายของ RS โดนกดจนร่วงลงมาปิดที่ 13.80 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 4.80% ด้วยมูลค่า 534 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการ take profit เมื่อหุ้นวิ่งขึ้นมาชนแนวต้านเก่าเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งตีความได้ว่า หุ้นน่าจะอ่อนตัวกลับลงไปหาแนวรับแรกที่บริเวณ 12.50 บาทอีกครั้ง จึงน่าจะรอดูให้แรงเทขายสะเด็ดน้ำตรงบริเวณดังกล่าวเสียก่อน ต่อจากนั้นค่อยคิดอีกทีว่า ลุย หรือ ไม่ลุย นะจ๊ะ

*เปิดประเด็นนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับหันไปมอง PDI กันอีกสักครั้ง หลังหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 22.90 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่า 185 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขึ้นทดสอบแนวต้าน 23 บาทอีกรอบ หากผ่านขึ้นไปได้ก็จะขึ้นไปเจอด่านหินที่บริเวณ 24 บาทอีกทีหนึ่ง  ในทางกลับกันหากวันนี้ไม่มีแรงส่งมากพอที่จะดันหุ้น น่าจะทรุดตัวลงไปนอนแถว 20 บาทนะนายจ๋า!

*ผิดกับในรายของ SUPER อย่างสิ้นเชิง หลังราคาหุ้นค่อยๆ ตีกลับจากบริเวณ 1.20 บาท ก็ดูเหมือนโลกนี้จะเป็นสีเขียวไปหมดทั้งใบ ข่าวดีหลั่งไหลออกมาให้เห็นเรื่อยๆ แถมผู้บริหารขยันออกสื่อมากขึ้นกว่าเดิม บวกกับโบรกเกอร์เชียร์ให้เล่นกันสุดตัว วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.31 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 5.65% ด้วยมูลค่า 518 ล้านบาท เหมือนเป็นการบอกให้รู้ว่า รอบนี้ขอขึ้นไปยืนแถว 1.40 บาทก่อน ต่อจากนั้นค่อยสะสมกำลังเพื่อไต่เพดานขึ้นไปหาแนวต้าน 1.60 บาท…จริงหรือไม่ ดูกันไปเรื่อยๆ ก็ได้จ๊ะ

Back to top button