CENTELลุ้นผลงาน1Q58แข็งแกร่งคาดการบริโภคดีขึ้นใน2Q58แนะซื้อ

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(8 พ.ค.) ว่าบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เราได้เข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้กับ CENTEL เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส1/58ที่กำลังจะออกมา และแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง ไตรมาส2/58 โดยในช่วงไตรมาส1/58ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นำโดยโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร ขณะที่ธุรกิจอาหารมีการดำเนินการที่ดีพอสมควร ทั้งที่การบริโภคภายในประเทศอ่อนแอ เราจึงคาด CENTEL จะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเติบโต 37% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 30% เทียบไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส1/58คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมีการฟื้นตัว และธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น


บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(8 พ.ค.) ว่าบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เราได้เข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้กับ CENTEL เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส1/58ที่กำลังจะออกมา และแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง ไตรมาส2/58  โดยในช่วงไตรมาส1/58ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นำโดยโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร ขณะที่ธุรกิจอาหารมีการดำเนินการที่ดีพอสมควร ทั้งที่การบริโภคภายในประเทศอ่อนแอ เราจึงคาด CENTEL จะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเติบโต 37% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 30% เทียบไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส1/58คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมีการฟื้นตัว และธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

อัตราการเข้าพักและรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ของ CENTEL ในไตรมาส1/58สูงขึ้น ผลักดันโดยโรงแรมในกรุงเทพฯ (โปรดดูรายละเอียดในตารางข้างล่าง) RevPar ของโรงแรมในต่างจังหวัดลดลงเล็กน้อย โดยหลักๆ มาจากโรงแรมในพัทยาที่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่ลดลง ผู้บริหารเห็น RevPar ของโรงแรมที่พัทยาหดตัวลงเพียง 5% เนื่องจากกลยุทธ์ในการดึงดูดผู้เข้าพักชาวไทยและจีน นอกจากนี้ธุรกิจ MICE ยังดีขึ้นแข็งแกร่งในไตรมาส1/58อีกด้วย

แม้ไตรมาส 2 จะเป็นช่วง low season ในธุรกิจโรงแรม แต่ธุรกิจโรงแรมของ CENTEL คาดว่าจะดีขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนผลักดันโดยโรงแรมในกรุงเทพฯ

ธุรกิจอาหารของบริษัทฯ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ 0.6% และยอดขายอาหารรวมคาดว่าจะเติบโต (TSSG) 5.6% โดยยอดขายสาขาเดิมในกรุงเทพฯ เติบโตแข็งแกร่งขึ้นที่ 2.2% เทียบกับในต่างจังหวัดที่มียอดขายสาขาเดิมที่หดตัวลง 1.1% ในไตรมาส1/58แต่อย่างไรก็ตาม EBITDA margin ของธุรกิจอาหารคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 11% ในไตรมาส1/58เทียบกับ 8.6% ในไตรมาส 1/57 และ 9.4% ในไตรมาส 4/57 เนื่องจากการปิดร้านอาหารที่มียอดขายที่ไม่ดี และประโยชน์จากการบริหารต้นทุน

แม้ผู้บริหารจะปรับลดเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม และอัตราการเติบโตของยอดขายรวมของธุรกิจอาหาร แต่บริษัทฯ ให้ความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของอัตรากำไร ซึ่งดีกว่าที่เราคาด

Back to top button