EEC กับ Chemical Flagship

จากเนื้อหาปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “New Emerging Opportunities Thai-Japan Partnership” ในงานสัมมนา “ยุทธ ศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น โอกาสครบรอบ 130 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น” โดยสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ทำให้เห็นภาพความเป็น Chemical Flagship ของ PTTGC และเครือปตท.ชัดเจนยิ่งขึ้น


พลวัตปี 2017 : สุภชัย ปกป้อง (แทน)

จากเนื้อหาปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “New Emerging Opportunities Thai-Japan Partnership” ในงานสัมมนา “ยุทธ ศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น โอกาสครบรอบ 130 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น” โดยสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ทำให้เห็นภาพความเป็น Chemical Flagship ของ PTTGC และเครือปตท.ชัดเจนยิ่งขึ้น

ที่สำคัญการขับเคลื่อน Chemical Flagship มีการเชื่อมโยงกับการขับเคลื่อนการลงทุน ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทำให้เป็นโอกาสของ PTTGC ในการเป็นพื้นที่ความร่วมมือพันธมิตรญี่ปุ่นและนักลงทุนต่างชาติ เพื่อดึงจุดแข็งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น

โดย PTTGC กำหนดแผนลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับ EEC ระยะ 5 ปีข้างหน้า ประมาณ 130,000 ล้านบาท เพื่อที่จะก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) ประกอบด้วยยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมขนส่ง และการบินการแพทย์ครบวงจร การแปรรูปอาหารและดิจิทัล

1)โครงการ Map Ta Phut Retrofit : เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและเสริมสร้างความสามารถการแข่งขันการผลิตโรงงานที่มาบตาพุด ก่อสร้างโรงงานแนฟทาแครกเกอร์ ขนาดกำลังผลิตเอทิลีน 500,000 ตันต่อปี และโพรพิลีน 250,000 ตันต่อปี

2)โครงการ PO/POLYOLS : มีการลงนามสัญญาร่วมทุนกับ Sanyo Chemical Industries., Ltd. (SCI) และ Toyota Tsusho Corporation (TTC) จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อตั้งโรงงานผลิต Polyols & PU System ภายใต้บริษัทร่วมทุน GC Polyols เพื่อขยายธุรกิจขั้นปลายน้ำสู่กลุ่มอุตสาหกรรม Polyurethane ที่มีมูลค่าสูง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตลาดกำลังมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีกำลังการผลิตโพลีออลส์  130,000 ตันต่อปี และ PU Systems กำลังผลิต 20,000 ตันต่อปี กำหนดการผลิตเชิงพาณิชย์ประมาณปี 2563 

3)โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง ประเภท High-Heat Resistant Polyamide-9T (PA9T) และ Hydrogenated Styrenic Block Copolymer (HSBC) แห่งแรกในประเทศไทย  โดยมีการลงนามในสาระสำคัญของข้อตกลงสัญญาร่วมทุนเบื้องต้น (Key Terms Joint Venture Agreement) กับบริษัท Kuraray Co., Ltd. และบริษัท Sumitomo Corporation จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเชิงลึก โครงการร่วมทุนดังกล่าวมีกำลังผลิตของ PA9T อยู่ที่ 13,000 ตันต่อปี และ HSBC อยู่ที่ 16,000 ตันต่อปี โดยใช้วัตถุดิบจาก PTTGC นั่นเอง

4)โครงการ Biocomplex : PTTGC มีนโยบายด้านการดำเนินงานธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เป็นบริษัทแกนนำของธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Flagship Company) ของกลุ่ม PTTGC

จากแผนการสร้างและต่อยอดสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) บนพื้นที่ EEC จึงเป็นโอกาสที่ PTTGC และเครือปตท.จะได้ขับเคลื่อน “เรือธงธุรกิจปิโตรเคมี” ได้อย่างมีประสิทธิภาพและการบริหารจัดการต้นทุนมากยิ่งขึ้น

1)ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่ถูกจัดวางจากภาครัฐเพื่อรองรับ 4 โครงการดังกล่าว

2)เป็นจุดเชื่อมโยงความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง PTTGC ร่วมกับพันธมิตรต่างๆ

3)เป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงและต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ

4)เป็นจุดยุทธศาสตร์การตลาด การจัดจำหน่ายและการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ในทั่วทุกภูมิภาคของโลก

ในอดีต 30 กว่าปีที่ผ่านมา Eastern Seaboard ถือเป็น New S-Curve ของอุตสาหกรรมอันหลากหลายของไทย และเป็นพื้นที่ที่เป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลก ก่อให้เกิดการลงทุนตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำ เช่น อุตสาหกรรมโรงกลั่นและปิโตรเคมี จนถึงอุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น อุตสาหกรรมพลาสติกและเคมีภัณฑ์ครบวงจร

ทำให้เกิดการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เกิดอุตสาหกรรมใหม่ ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจของภาคตะวันออกและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ปัจจุบัน Eastern Seaboard ก็คือ “ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)” ที่เป็น New S-Curve ของ Chemical Flagship ของ PTTGC และเครือปตท. เพื่อผลักดันธุรกิจปิโตรเคมี สู่การพัฒนาและขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่อไปนั่นเอง…

Back to top button