SPALI ตีเหล็กยามร้อน

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน คือวันแรกของการขึ้นเครื่องหมาย XW กับหุ้นของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ซึ่งยังผลให้ราคาหุ้นร่วงลงทันทีที่เปิดตลาด จนกระทั่งไปปิดที่ระดับ 22.90 บาท


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน คือวันแรกของการขึ้นเครื่องหมาย XW กับหุ้นของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ซึ่งยังผลให้ราคาหุ้นร่วงลงทันทีที่เปิดตลาด จนกระทั่งไปปิดที่ระดับ 22.90 บาท

ราคาหุ้นที่ร่วงลงดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถือเป็นเรื่องปกติทุกครั้ง เพียงแต่ราคาหุ้นที่ระดับดังกล่าวถือว่า….ดีเกินคาด และ…. ไม่ปกติ

ความไม่ปกติดังกล่าว เกิดขึ้นในวันถัดมา เพราะราคาหุ้น SPALI รีบาวด์ขึ้นมายืนเหนือระดับ 13.00 บาทแข็งแกร่งในวันถัดมา และดูเหมือนจะไม่ยอมกลับลงไปอีก

ผลลัพธ์ที่ไม่ต้องค้นหาคำตอบมากมายคือ เกิดรายการ “ขายหมู” อีกครั้งเสียแล้ว

งานนี้ บรรดานักล่าวอร์แรนต์ของ SPALI พากันแก้มเปื้อนยิ้มไปตามกัน ให้กับความไร้เดียงสาของแมงเม่าที่ไม่เข้าใจเกมวิศวกรรมการเงิน

เกมที่ว่าเริ่มมา นับแต่มติของคณะกรรมการ SPALI ซ่อนเงื่อนไขและเจตนาทางบวกให้ผู้ถือหุ้นดีกว่าการจ่ายปันผลหลายเท่า โดยเฉพาะมติว่าด้วยการออกวอร์แรนต์เพื่อแจกฟรี และการเพิ่มทุนใหม่รองรับวอร์แรนต์

มติคณะกรรมการระบุว่าได้อนุมัติการออกและจัดสรรวอร์แรนต์ฟรี (SPALI-W4) จำนวน 429,138,312 หน่วยให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม อัตราส่วน 4 หุ้นเดิม 1 วอร์แรนต์ มีราคาใช้สิทธิ 4 บาท (อัตราส่วน 1:1) อายุ 1 ปี กำหนดการใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 20 ม.ค. 61 และทุก 3 เดือน นับจากวันที่ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งแรก พร้อมอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2,145.69 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 429,138,312 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิ SPALI-W4 ดังกล่าว

มติการเพิ่มทุนรองรับวอร์แรนต์ดังกล่าวมีความหมายพิเศษตรงที่ว่า 1) เป็นการเพิ่มทุนครั้งแรกในรอบกว่า 15 ปีของบริษัท 2) เป็นการจ่ายปันผลที่เร็วกว่าปกติ ไม่ต้องเสียเวลารอถึงเดือนเมษายนปีหน้า เพียงแต่อยู่ในรูปของตราสารที่เรียกว่าวอร์แรนต์เท่านั้น 3)ไม่มีใครในส่วนได้เสียที่เสียหายเลย มีแต่ได้มากหรือน้อยเท่านั้น ถือเป็นกติกา วิน-วิน ที่ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หรือใช้ข้อมูลภายใน

ภายใต้กติกาดังกล่าว หากวันใดที่ราคาหุ้น SPALI หลังจากที่วอร์แรนต์ SPALI-W4 เข้าเทรดวันแรกเป็นต้นไป (คาดว่าต้นถึงกลางเดือนตุลาคม) มากกว่าระดับ 24.00 บาทขึ้นไป เท่ากับคนที่ได้รับวอร์แรนต์ฟรีจะได้เงินปันผล “พิเศษ” อย่างน้อย 20.00 บาท หรือ หุ้นละ 5.00 บาท โดยไม่ต้องเสียภาษีเงินปันผลตามปกติแต่อย่างใด…ส่วนในกรณีไม่ต้องการแปลงสิทธิ จะขายในกระดานก็มีกำไร

อีกมุมหนึ่ง ในกรณีหุ้นแม่ ราคาวิ่งกลับไปยืนเหนือ 27.00 บาทได้ คนที่ลงทุนไปกับหุ้นแม่ก็ไม่ต้องเสี่ยงอะไรเลย กินกำไร 2 เด้งต่อสบายๆ

เกมนี้ เสี่ยประทีป ตั้งมติธรรม ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารสูงสุดของ SPALI เหนือชั้นจริงๆ…. ไม่ว่าจะคิดขึ้นมาเองหรือมีคนอื่นคิดให้ก็ตาม

ที่สำคัญ หากใครที่มีวอร์แรนต์ฟรีในมือ ต้องการถือเอาไว้เพื่อทำการแถมในการแปลงสิทธิเป็นหุ้นสามัญเพิ่มในอนาคตไม่เกิน 1 ปีข้างหน้า ยอมจ่ายอีกจ่ายเพียงแค่ 4 บาท ก็สามารถทำให้ได้รับหุ้นเพิ่มมากอีก ในราคาแค่ 4 บาท แต่ได้ราคาหุ้นอีกไม่น้อยกว่า 16-18 บาท

เพียงแต่จินตนาการล้ำลึกเพริศแพรวดังกล่าว จะเป็นจริงได้ ต้องมีพื้นฐานรองรับในเชิงธุรกิจ ไม่ใช่มโนนึกเอาเอง

งานนี้เชื่อหัวเสี่ยประทีปได้เลยว่า…..ม้าแก่ชำนาญทางรายนี้ ไม่ธรรมดาแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่นั่งเก้าอี้บริหารขับเคลื่อน SPALI จนจัดได้ว่าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งที่สุดรายหนึ่งของไทย…หากไม่ใช่อันดับหนึ่ง ก็อยู่ที่หัวแถว

กำไรสะสมที่มากกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ ไม่ต้องอาศัยกำไรพิเศษ ที่ไม่เคยต่ำกว่า 18% ตลอดมาทุกปี…..ย้ำว่าของเขาดีจริง ไม่ใช่สมรักษ์ คำสิงห์

พื้นฐานที่จะทำให้ SPALI มีราคาหุ้นในกระดานเดินหน้าขึ้นไปอยู่ที่อนาคตในการสร้างรายได้และกำไรเป็นสำคัญ

เสี่ยประทีปจึงเร่ง “โชว์พราวด์” ทันควันให้เกิดความเชื่อมั่นว่ายังไปได้อีกยาวไกลด้วยการคว้าชิ้นปลามันในการประมูลซื้อที่ดินสถานทูตออสเตรเลียเนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน 82 ตารางวา ปากซอยสวนพลู บนถนนสาทร มูลค่า 4,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นตารางวาละ 1.45 ล้านบาท

แลนด์แบงก์ราคาแพงกว่าทองคำ ถูกวางแผนเป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็น Landmark ใหม่ในย่านถนนสาทร สีลม  ซึ่งจะประกอบด้วย อาคารชุดพักอาศัยและอาคารสำนักงานให้เช่า และในเบื้องต้นคาดว่าจะมีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 17,000 ล้านบาท

​ที่ดินของสถานทูตออสเตรเลียดังกล่าว ถือเป็นทำเลทองบนถนนสายสำคัญในย่านธุรกิจที่มีศักยภาพด้านการพัฒนาสูง เป็นพื้นที่ของพาณิชยกรรม และที่อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น แวดล้อมด้วยแหล่งงานจำนวนมากและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย อีกทั้งยังเป็นทำเลที่คุ้นเคยและนิยมของชาวต่างชาติ

เสี่ยประทีประบุว่า เบื้องต้นบริษัทคาดจะเปิดให้ลูกค้าจองโครงการใหม่นี้ได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561….ตามประสาเสือปืนไว

เพียงแต่ SPALI ไม่ได้พึ่งพาโครงการเดียวเฉพาะ เพราะในทางปฏิบัติมีการเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ อีก โดยที่มีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัยแล้ว จำนวน 6 แปลง และยังมีที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการที่พักอาศัยแนวราบอีกหลายสิบแปลงทั่วประเทศ

บังเอิญว่า ที่ดินของสถานทูตออสเตรเลียที่ได้มา มี “กล่อง” แถมมาด้วย จึงต้องเชิดชูกันในฐานะ “ลูกรัก” มากเป็นพิเศษ

อย่างน้อย ก็มีผลทำให้บริษัทจะมีอัตราการเติบโตด้านยอดขายและรายได้ประมาณ 15-20% ต่อปี อีกทั้งทำจะให้บริษัทมีสินค้าระดับบน ในทำเลใจกลางเมืองย่านสาทร สีลม เพิ่มขึ้น 

เสี่ยประทีปว่าไวแล้ว ยังมีคนไวกว่า เพราะนักวิเคราะห์หุ้นหลายสำนัก ปรับราคาหุ้น SPALI ไปที่ 27 บาทต่อหุ้น ทันที โดยอ้างถึงปัจจัยบวกระยะสั้นจากแผนการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในช่วงไตรมาส 3 จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท และกำไรพิเศษจากการขาย Petron Megaplaza ในประเทศฟิลิปปินส์อีกราว 137 ล้านบาท …ลืมคำแนะนำให้ทิ้งหุ้นนี้เมื่อสองเดือนก่อน หมดจด

มีทีเด็ดอย่างนี้ เรื่องงดจ่ายปันผลปีนี้ (ในเดือนเมษายนปีหน้า) จึงถูกกลบฝังเสียสนิท ไม่มีกลับมาหลอกหลอนอีก

ระหว่างนี้มากระดิกเท้า รอรับวอร์แรนต์ฟรีกันดีกว่า

อิ อิ อิ

Back to top button