SET ทรงตัว เคาะ 17 บจ.ร้อน เน้นกลุ่มส่งออก – Laggard

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มแกว่งแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุน การลงทุนเน้นกลุ่มที่ราคายัง Laggard และได้รับปัจจัยบวกจากการส่งออกไทยที่ดีขึ้น


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.08 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง หลังจ S&P หั่นอันดับความน่าเชื่อถือของจีนสู่ “A+” วานนี้ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มแกว่งแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุน การลงทุนเน้นกลุ่มที่ราคายัง Laggard และได้รับปัจจัยบวกจากการส่งออกไทยที่ดีขึ้น หุ้นเด่นเลือก KCE, STEC, HANA, TISCO, KKP, MTLS, SCB, LH, MINT, SCC, AMATA, WHA, BANPU, GFPT ,AH ,SAT และ NYT

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (22 ก.ย.) มีแนวโน้มแกว่งแคบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา มีเพียงตัวเลขการส่งออกเดือน ส.ค. ของไทยที่ออกมาดี และความคาดหวังว่ารัฐบาลจะนำร่าง พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เข้าสู่ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 28 ก.ย. นี้ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยแนะนำให้ติดตามสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ พร้อมให้แนวรับที่ 1,665 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ก.ย.) ว่า แม้ SET ดูอ่อนแอกว่าที่คาดไว้วานนี้ จาก Sector Rotation โดยมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับสูงขึ้นไปก่อนหน้านี้ มายังกลุ่มหุ้น Laggard ทั้งนี้ภาพ SET ระยะสั้นอาจแกว่งตัวออกข้าง (Sideways) บ้าง ในกรอบ 1,665-1,678 จุด แต่ระยะสัปดาห์ยังลุ้นไปที่ 1,690 +/- จุดเหมือนเดิม ขณะที่สัปดาห์หน้าจะเน้นไปที่โอกาสการทำ Window Dressing กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้นยัง Laggard ตลาดตั้งแต่ต้น 3Q17

อาจมี Sector Rotation บ้าง ลุ้นกลุ่มหุ้นถูก Window Dressing แนะนำ 1) กลุ่มหุ้นที่มีโอกาสถูกทำ Window Dressing ปิดงวด 3Q17 : โดยราคาหุ้น Laggard ตลาดมากตั้งแต่สิ้นเดือน มิ.ย.ได้แก่ KCE STEC HANA TISCO KKP  MTLS SCB LH MINT  และ SCC

2กลุ่มนิคมฯ “ซื้อ” AMATA (TP 23) และ WHA (TP 4) การนำร่างกฎหมาย EEC เข้า สนช. 28 ก.ย. นี้ เร็วกว่าคาด และการใช้ ม.44 เร่งกระบวนการทำ PPP Fast Track จะส่งผลให้การลงทุนเกิดเร็วขึ้น และ 3) “ซื้อ” BANPU  คาดกำไร 2H17 เติบโตแกร่งจากราคาถ่านหินปรับสูงขึ้น และปริมาณการผลิตถ่านหินที่เพิ่มขึ้น มอง PBV 1 เท่า ต่ำกว่าในอดีตมากไป

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ก.ย.) วาง Filter แนวรับที่ 1,660 – 1,665 จุด กรณียืนได้ยังคาดดัชนียังแกว่งในกรอบ 1,660 – 1,680 จุด แนะนำซื้อหุ้นที่ได้รับปัจจัยจากการส่งออกไทย เช่น GFPT, HANA, KCE ,AH ,SAT, NYT

Back to top button