COM7 หมดเสน่ห์

ประเด็นของหุ้น COM7 หรือ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) เป็นเรื่องที่นักลงทุน และอาจารย์ต้องทำความเข้าใจมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับสินค้าไอทีใหม่ๆ มีการเปิดตัวอย่างต่อเนื่องหรือเปล่า? รวมทั้งมีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้ดีขนาดไหน?


ตีแผ่ บจ.ดัง

คุณบุญชู อ.เมือง จ.ปทุมธานี เล่าว่า ตัวเองได้ติดตามอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ “ข่าวหุ้น” เป็นประจำอยู่ทุกวัน แต่มีอยู่วันหนึ่งที่เว็บไซต์นำเสนอข่าวเกี่ยวกับหุ้น COM7 หรือ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ในทำนองหมดความน่าสนใจ หลังไอโฟน 8 เปิดตัวไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่หลายคนคาดคิด รวมทั้งปัจจัยบวกใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นในการลงทุนก็หดหายไปดื้อๆ จึงอยากให้อาจารย์ช่วยไขข้อข้องใจที่ว่า “หุ้นหมดเสน่ห์” แล้วจริงไหมครับ

 

ประเด็นของหุ้น COM7 หรือ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) เป็นเรื่องที่นักลงทุน และอาจารย์ต้องทำความเข้าใจมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับสินค้าไอทีใหม่ๆ มีการเปิดตัวอย่างต่อเนื่องหรือเปล่า? รวมทั้งมีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้ดีขนาดไหน?

เหล่านี้เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องรู้จักพลิกแพลงตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อจะได้เรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวงรอบเป็นเหตุการณ์ปกติ หรือไม่ปกติ เพราะลำพังการอธิบายแบบปากต่อปากอาจไม่เห็นภาพที่แท้จริง อาจารย์ถึงอยากให้นักลงทุนสัมผัสของจริง เพื่อการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง

วันนี้อาจารย์ถึงมองการลงทุนออกเป็น 2 แบบคือ 1.ลงทุนสั้นๆ กับ 2. ลงทุนยาวๆ

โดยทั้ง 2 วิธีให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันพอสมควร จึงอยากให้นักลงทุนจัดระเบียบในการลงทุนให้ชัดเจนตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะสิ่งที่อาจารย์พบเห็นได้บ่อยมากๆ คือ นักลงทุนบางรายบอกตัวเองเป็นนักเก็งกำไร พอเห็นราคาหุ้นลงมาเรื่อยๆ จนตัวเองขาดทุน ก็กลับลำพร้อมกับบอกตัวเองเน้นลงทุนระยะยาว

อีกหนึ่งกรณีที่เห็นได้ชัดในเที่ยวนี้คือ นักลงทุนระยะยาวโดยสายเลือดในหมู่นักลงทุนรายย่อยหาได้ยากมากๆ เพราะหลายคนมักเกิดอาการหวั่นไหวเมื่อเห็นหุ้นตกลงมาหนักๆ พร้อมกับตัดขายหุ้นขาดทุนออกไปดื้อๆ ทั้งที่ความเป็นจริงต้องทนถือหุ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อรอให้ผลงานของบริษัทฟื้นตัวเสียก่อน

ประเด็นทั้งหมดที่กล่าวถึงล้วนเข้ากับสถานการณ์ของหุ้น COM7 ได้เป็นอย่างดี เพราะราคาหุ้นเริ่มตื้อๆ ตันๆ และตัวธุรกิจก็ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนเมื่อก่อน ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มคิดไปต่างๆ นาๆ ว่า น่าจะหมดโอกาสเติบโต จึงเป็นจังหวะของการเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง

ถามว่า กระบวนการทางความคิดดังกล่าวถูกต้องไหม?

อาจารย์ขอตอบว่า ถูกต้องสำหรับนักลงทุนที่คิดแบบนั้น แต่อาจไม่ถูกต้องสำหรับนักลงทุนที่มองทุกอย่างยังดี

ตรงนี้ทำให้อาจารย์ต้องตั้งสมมติฐานจากผลงานในครึ่งปีแรกที่ทำกำไรต่อหุ้นได้ในระดับ 0.20 บาท เมื่อบวกกับในช่วงครึ่งปีหลังทำกำไรได้ใกล้เคียงกัน กำไรต่อหุ้นในปี 60 ก็จะอยู่ที่ระดับ 0.40 บาท เมื่อนำมาเทียบกับค่า P/E 40 เท่า หุ้นตัวนี้จะมีราคาเป้าหมายสูงถึง 16 บาทนะครับ

หากปรับค่าดังกล่าวลดลงเหลือ P/E 30 เท่า ราคาเป้าหมายก็จะลดลงมาอยู่ที่ 12 บาทเท่านั้น

วันนี้ถึงขึ้นกับตลาดจะให้แวลูหุ้น COM7 มากน้อยขนาดไหน และขอแนะนำนักลงทุนให้ใช้คำว่า “หมดรอบ” มากกว่า “หมดเสน่ห์” เพราะคำนิยามแรกยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาเล่นได้ใหม่ ขณะที่คำนิยามหลังเหมือนเป็นการปิดประตูในการเข้ามาเล่นเลยนะครับ

กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 22 ก.ย.60

Back to top button