QTC ผนึก “เจริญ เซกอง” เซ็นMOU

QTC ผนึก “เจริญ เซกอง” เซ็นMOU เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว


นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC เปิดเผยว่า QTC ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัท เจริญ เซกอง กรุ๊ป จำกัด (“CSG”) ซึ่งเป็นบริษัทลาวที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาและเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลายโครงการในประเทศลาว โดย CSG ตกลงให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Right) แก่ QTC ในการศึกษาข้อมูล และตรวจสอบสถานะเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาวจำนวน 2 โครงการ

โดยมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 164 เมกะวัตต์ โดย CSG ตกลงที่จะไม่เจรจาหรือเข้าทำสัญญาใดๆ ไม่ว่าโดยตรงกับโดยอ้อมแก่บุคคลอื่นในระหว่างระยะเวลาที่ได้ให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวกับQTC อย่างไรก็ดี QTC ไม่มีความผูกพัน ที่จะต้องลงทุนในโครงการดังกล่าว เนื่องจากบันทึกความเข้าใจเป็นข้อตกลงเพื่อการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในเบื้องต้นเท่านั้น

ทั้งนี้ การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำทั้งสองโครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามแผนการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของ QTC เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน QTC ได้ดำเนินการตามแผนการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าแล้วสองโครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นของ QTC รวมจำนวน 33.5 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Minbu ที่ประเทศเมียนมาร์ กำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 170 เมกะวัตต์ (หรือคิดเป็น 25.5 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้นของ QTC)

ขนะที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนในปี 2561 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ของ L Solar 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี กำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 8เมกะวัตต์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วตั้งแต่ปี 2554 โดย QTC ได้รับโอนหุ้นของ L Solar 1 จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา และคาดว่าQTC จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ของ L Solar 1

นอกจากนี้ ในงวด 6 เดือนของปี 2560 รายได้จากธุรกิจหม้อแปลงซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทเอง ก็ได้ปรับตัวดีขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2559 ตามความต้องการซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าในตลาดที่มีสัญญาณที่ดีขึ้น และคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทเชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าร่วมกับการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจะเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนให้ QTC สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน และสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตามความตั้งใจของ QTC

Back to top button