IVL แนวโน้มกำไรทำนิวไฮใน 2-3 ปีกูรูชูหุ้น Growth Stock เด่นสุดในกลุ่ม

โบรกเกอร์ประเมินมูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2558 อิง DCF (WACC 11%) ของ IVL เท่ากับ 32 บาทต่อหุ้น แม้ปันผลอาจไม่จูงใจนัก แต่คาดแนวโน้มกำไรที่จะขึ้นทำ New high ในระยะ 2-3 ปี ข้างหน้า


บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (12 พ.ค.) ว่าผู้บริหารบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ยังเดินหน้าตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาอยู่ในระดับ 10 ล้านตัน ภายในปี 2561 จากกำลังการผลิตในปัจจุบัน 12 เดือนย้อนหลังที่ 6.4 ล้านตัน ผ่านการทำ M&A ในสัดส่วน 70% และสัดส่วนอีก 30% จะเป็นโครงการ Brown-field อีกทั้งยังมุ่งเน้นที่จะเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ HVA (High Value Added) ซึ่งให้อัตรากำไรในระดับสูง ขึ้นเป็น 34% จากปัจจุบันที่อยู่ราว 20% และลดสัดส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่ม PET ในทวีปเอเชียซึ่งมีอัตรากำไรอยู่ในระดับต่ำมากลงเหลือเพียง 12% จากปัจจุบันที่ 18% เพื่อเพิ่มอัตรากำไร EBITDA Margin โดยรวมของ IVL ขึ้นสู่ 10% จาก 7% ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ IVL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58 พลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ 249 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 953 ล้านบาท ในงวดก่อนหน้า และดีกว่าคาดการณ์ไว้เล็กน้อย ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการปี 2558 ที่คาดกำไรจะพลิกกลับมาเติบโตอย่างมีนัยฯกว่าเท่าตัวจากปี 2557 ที่ระดับ 4.5 พันล้านบาท ถึงแม้คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/58 จะคิดเป็นเพียง 5.5% ของประมาณการทั้งปี

โดยคาดไตรมาส 2/58 มีโอกาสสูงที่จะมีการบันทึกกลับเป็นกำไรจากสินค้าคงเหลือ ซึ่งตั้งแต่ต้นไตรมาส 2/58 ถึงปัจจุบัน มีกำไรจากสินค้าคงเหลือไปแล้วเกือบ 1 พันล้านบาท อีกทั้งในงวด 2/58 คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดก่อนหน้า หนุนโดยปริมาณขายที่คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.7 ล้านตัน และแนวโน้ม Spread ผลิตภัณฑ์ที่คาดจะปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มกำไรปกติที่เติบโตจะยังคงเห็นต่อเนื่องในงวดครึ่งปีหลังของปี 58 ซึ่งยังคงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก

อย่างไรก็ตามประเมินมูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2558 อิง DCF (WACC 11%) เท่ากับ 32 บาทต่อหุ้น แม้ปันผลอาจไม่จูงใจนัก แต่คาดแนวโน้มกำไรที่จะขึ้นทำ New high ในระยะ 2-3 ปี ข้างหน้า

Back to top button