สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

ภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 ต.ค. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (29 ก.ย.) โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้พบปะกับนายเควิน วอร์ช ซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหารือเกี่ยวกับการแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งประธานเฟด สืบต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน โดยนายวอร์ชเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่เฟดที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,405.09 จุด เพิ่มขึ้น 23.89 จุด หรือ +0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,519.36 จุด เพิ่มขึ้น 9.30 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,495.96 จุด เพิ่มขึ้น 42.51 จุด หรือ +0.66%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (29 ก.ย.) หลังหุ้นกลุ่มธนาคารยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ธนาคารได้กำไรมากขึ้นจากการปล่อยกู้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.5% ปิดที่ 388.16 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,329.81 จุด เพิ่มขึ้น 36.04 จุด หรือ +0.68% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,828.86 จุด เพิ่มขึ้น 124.21 จุด หรือ +0.98% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,372.76 จุด เพิ่มขึ้น 49.94 จุด หรือ +0.68%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (29 ก.ย.) จากอานิสงส์ของสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) ได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2560 ซึ่งขยายตัวเพียง 1.5% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 1.7% ในรายงานประมาณการก่อนหน้านี้

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 49.94 จุด หรือ +0.68% ปิดที่ 7,372.76 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (29 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในตะวันออกกลาง อันเนื่องมาจากการลงประชามติของชาวเคิร์ดในอิรัก โดยผลการลงประชามติชี้ว่าชาวเคิร์ดเห็นพ้องในการแยกตัวเป็นอิสระจากอิรัก สร้างความไม่พอใจแก่รัฐบาลอิรักรวมถึงรัฐบาลตุรกีและอิหร่าน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 51.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 57.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (29 ก.ย.) หลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. และความเป็นไปได้ที่แผนปฏิรูปภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจจะผ่านการรับรองจากสภาคองเกรส

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 1284.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวลงราว 1.0%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 17.1 เซนต์ หรือ -1.0% ปิดที่ 16.676 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 10.20 ดอลลาร์ หรือ -1.1% ปิดที่ 915.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์ หรือ 1.0% ปิดที่ 936.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (29 ก.ย.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค.

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.48 เยน จากระดับ 112.38 เยน ขณะที่อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9688 ฟรังก์ จากระดับ 0.9702 ฟรังก์

ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1809 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1784 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3393 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3446 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7841 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7854 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button