สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

ภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ต.ค. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขานรับการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ หลังจากบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) และฟอร์ด มอเตอร์ เปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสายการบินยังเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดปิดในแดนบวก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,641.67 จุด เพิ่มขึ้น 84.07 จุด หรือ +0.37% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,531.71 จุด เพิ่มขึ้น 15.00 จุด หรือ +0.23% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,534.58 จุด เพิ่มขึ้น 5.46 จุด หรือ +0.22%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในแคว้นกาตาลุญญาของสเปน โดยหุ้นธนาคารของสเปนดีดตัวขึ้น หลังจากที่ราคาหุ้นร่วงลงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ชาวคาตาลันในแคว้นกาตาลุญญาได้ลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นอิสระจากสเปน

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 390.72 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,367.41 จุด เพิ่มขึ้น 16.97 จุด หรือ +0.32% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,468.11 จุด เพิ่มขึ้น 29.27 จุด หรือ +0.39% *ส่วนตลาดหุ้นเยอรมันปิดทำการในวันอังคารที่ 3 ต.ค. เนื่องในวันรวมชาติเยอรมัน*

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกติดต่อกัน 5 วันทำการเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) จากอานิสงส์ของสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังจากไอเอชเอส/มาร์กิต เปิดเผยข้อมูลภาคการก่อสร้างที่น่าผิดหวังของอังกฤษ ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 29.27 จุด หรือ +0.39% ปิดที่ 7,468.11 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 50.42 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 56 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,274.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.4 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 16.65 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 915.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 916.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) ขณะตลาดจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ในวันนี้ โดยนักลงทุนรอดูว่า นางเยลเลนจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟดหรือไม่

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1748 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1744 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3244 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3285 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7833 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7835 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.92 เยน จากระดับ 112.65 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9740 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9746 ฟรังก์สวิส

Back to top button