เปิดชื่อ 4 หุ้นสุดปัง! วิ่งทุบสถิตินิวไฮต่อเนื่อง ลุ้นกำไรปีนี้โตแกร่ง

เปิดชื่อ 4 หุ้นสุดปัง! วิ่งทุบสถิตินิวไฮต่อเนื่อง ลุ้นกำไรปีนี้โตแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PM ล่าสุด ณ เวลา 15.58 น. อยู่ที่ 14 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4.48% สูงสุดที่ 14.20 บาท ต่ำสุดที่ 13.40 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 141.05 ล้านบาท โดยราคาหุ้น PM ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 พ.ค.51

ทั้งนี้ บล.โนมูระ พัฒนสิน ให้ราคาเป้าหมาย PM ที่ 17.4 บาทต่อหุ้น โดยแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 3/60 ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน จากผ่านพ้นช่วง Low season และบันทึกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่แล้วเสร็จในไตรมาสก่อนหน้า และคาดว่ายังมีตัวเลขยอดส่งออกไปต่างประเทศ ที่เริ่มจัดจำหน่ายแล้ว เช่น เกาหลีและเขมร

รวมทั้งคาดว่ากำไรจะเติบโตเด่นต่อเนื่องในไตรมาส 4/60 ซึ่งจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ยังคงเป้าฐานกำไรสุทธิปี60 ที่ 535 ล้านบาทต่อเนื่องถึงแนวโน้มกำไรช่วง 3 ปีนี้จะเข้าสู่ช่วงเติบโตรอบใหญ่เฉลี่ย CAGR 22% ต่อปี จากกลยุทธ์ที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น เริ่มนำ Taro บุกตลาดต่างประเทศ

ทั้งนี้ภาพของบริษัทจะเปลี่ยนจาก Div play เป็น Growth stock + high div โดย Div yield 6% และมี Valuation น่าสนใจ โดยมี PER ปี 60 เพียง 14x เท่า ยังต่ำกว่า TKN ซึ่งสูงถึง 30x เท่า

 

ส่วนบริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA ล่าสุด ณ เวลา 15.58 น. อยู่ที่ 40 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.63% สูงสุดที่ 41 บาท ต่ำสุดที่ 39.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 66.91 ล้านบาท โดยราคาหุ้น MEGA ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 พ.ย.56

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย ปรับประมาณการกำไรของ MEGA ขึ้น 8%/10%/9% ในปี 2560-62 ตามลำดับและปรับเพิ่มเป้าหมาย Trailing PER ขึ้นจาก 26 เท่า เป็น 27 เท่า สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของ Trailing PER ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2556 คาดการณ์รายได้ที่เติบโตแข็งแกร่งในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,การฟื้นตัวของยอดขายในประเทศไทยและไนจีเรีย และ คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/2560 ที่น่าจะทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง เป็นเหตุผลในการลงทุนของหุ้นตัวนี้

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าแผนการเปิดตัวสินค้าภายใต้ JV กับ MALEE จะเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 1/2561 จากเดิมไตรมาส 4/2560 แต่ประเด็นนี้มิได้มีผลกระทบต่อประมาณการเนื่องจากยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ

โดยคาดกำไรสุทธิหลักในปี 2561-62 จะเติบโตต่อเนื่องที่ 14% และ 15% ตามลำดับ มาที่ 1.26 พันล้านบาท และ 1.44 พันล้านบาท ตามลำดับ จากรายได้ที่เติบโตทั้งจาก MegaWeCare และ Maxxcare และ EBIT margin ที่คาดจะค่อยๆเพิ่มขึ้น

 

ด้านราคาหุ้นบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK ล่าสุด ณ เวลา 16.13 น. อยู่ที่ 20.00 บาท บวก 1.10 บาท หรือ 5.82๔ สูงสุด 20.00 บาท ต่ำสุด 19.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 958.64 พันล้านบาท โดยราคาหุ้น MBK ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 เม.ย.39

 

ขณะที่ราคาหุ้นบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ล่าสุด ณ เวลา 15.59 น. อยู่ที่ 24.80 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 2.90% สูงสุด 24.80 บาท ต่ำสุด 23.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.54 พันล้านบาท โดยราคาหุ้น BGRIM ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 ก.ค.60

ด้าน บล.กสิกรไทย แนะนำ “ถือ” BGRIM ราคาเป้าหมาย 22.70 บาทต่อหุ้น โดย BGRIM เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าแบบ SPP ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทยที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้า

ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตของกำไรปกติได้สูงถึง 31.8% ในช่วงปี 2560-2562 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้เล่นรายใหญ่อื่นๆที่มีการเติบโตเพียง 7.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้บริษัทยังมี upside จากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและการ Refininace เงินกู้ให้มีค่าใช้จ่ายลดลง ทั้งนี้ ด้วยกระแสเงินสดที่ค่อนข้างมั่นคง และเงินที่ได้จากการทำ IPO บริษัทสามารถลงทุนเพิ่มในโครงการใหม่ๆ และ/หรือ จ่ายเงินปันผลมากขึ้น

Back to top button