“เปิดหุ้น! ราคาพุ่งเกิน 20%” ประจำเดือน ก.ย.

ดัชนีตลาดหุ้นไทยก่อนหน้าพร้อมจะขึ้นตลอดเวลา...เพียงแต่รอปัจจัยอะไรเข้ามากระตุ้น ประกอบกับรอเม็ดเงินต่างชาติไหลกลับเข้ามา


เส้นทางนักลงทุน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยก่อนหน้าพร้อมจะขึ้นตลอดเวลา…เพียงแต่รอปัจจัยอะไรเข้ามากระตุ้น ประกอบกับรอเม็ดเงินต่างชาติไหลกลับเข้ามา

จนถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ คือปลายเดือน ส.ค. ที่มูลค่าการซื้อขายเข้ามาทะลัก 9.5 หมื่นล้านบาท และดัชนีทะลุ 1,600 จุด แล้วยืนได้สำเร็จ จากนั้นทำให้วอลุ่มซื้อขายเข้ามาหนาแน่นอย่างต่อเนื่องในเดือน ก.ย. อยู่ที่ระดับปริมาณ 4.5-7.5 หมื่นล้านบาท และช่วยผลักดันให้ดัชนีค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาแนวต้านที่ระดับ 1,620 จุด, 1,630 จุด, 1,650 จุด, และจนสิ้นเดือน ก.ย. วันที่ 29 ก.ย. 60 ดัชนีขึ้นมาปิด 1,673.16 จุด

ถือเป็นสัญญาณการไหลเข้ามาของเม็ดเงินต่างชาติ เพราะที่ผ่านมาสถานการณ์ถือครองหุ้นต่างชาติในหุ้นไทยยังต่ำอยู่ในรอบ 10 ปี

ทั้งนี้ถ้ามีวอลุ่มสนับสนุนอย่างต่อเนื่องทุก 1 เท่าของ พี/อี ที่ขยับขึ้นปกติหุ้นจะขึ้นประมาณ 100-101 จุด จึงคาดว่าถ้ามีวอลุ่มเข้าต่อมีโอกาสที่หุ้นจะแตะ 1,700 จุดได้….ซึ่งในขณะนี้ดัชนีก็พยายามจะขึ้นทดสอบระดับ 1,700 จุด แต่ก็ยังไปไม่ถึงจึงย่อตัวลงมา มองเป็นการพักตัวหลังจากที่ดัชนีฯได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว

ดังนั้นช่วงของการพักฐานของดัชนี ทางข่าวหุ้นธุรกิจ มีหุ้นตัวเลือก ด้วยการยกหุ้นที่ปรับตัวขึ้นดีต่อเนื่องตลอดในช่วงเดือน ก.ย. จนเข้ามาติดอันดับต้นของตารางราคาหุ้นพุ่งแรง (ราคาหุ้นพุ่งเกิน 20%) เพื่อเป็นแนวทางการลงทุนในช่วงที่เหลือ

หุ้นคัดมาอยู่ในกลุ่มตลาด SET อย่าง BFIT, NPP, BTC, AMANAH, CSL, GRAND, CBG, SPPT, PM, SGP, BCPG, GOLD, ECL, UV, ALT, MBK, TKS, GSTEL, SAMTEL, FN, HMPRO, GGC, MEGA, NWR และ CGD ตามลำดับ

ตัวอย่าง 5 อันดับแรกสำหรับหุ้นราคาพุ่งแรง โดย BFIT ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 90.93% หรือขึ้นไป 16.55 บาท วัดจากราคาปิดในวันที่ 29 ก.ย. อยู่ที่ 34.75 บาท ขณะที่วันที่ 31 ส.ค. อยู่ที่ 18.20 บาท รับผลดีจากที่บริษัทเข้าทำสัญญาบริหารจัดการสินเชื่อกับ “ศรีสวัสดิ์ 2014” เป็นเวลา 2 ปี มูลค่า 1.89 พันล้านบาท อย่างไรก็ดีการไล่ราคาหุ้นยังคงมีอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ต่อมา NPP ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 72.73% หรือขึ้นไป 0.40 บาท วัดจากราคาปิดในวันที่ 29 ก.ย. อยู่ที่ 0.95 บาท ขณะที่วันที่ 31 ส.ค. อยู่ที่ 0.55 บาท ถือเป็นการไล่ซื้อเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่แต่ในกรอบจำกัดมานาน

ขณะที่ AMANAH ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 29.25% หรือขึ้นไป 0.31 บาท วัดจากราคาปิดในวันที่ 29 ก.ย. อยู่ที่ 1.37 บาท ขณะที่วันที่ 31 ส.ค. อยู่ที่ 1.06 บาท อาจมีการเก็งกำไรของนักลงทุนกลุ่มหนึ่ง หลังมีนักลงทุนบางกลุ่มได้เข้าไป Visit และขอข้อมูลจากผู้บริหารของ AMANAH แล้วทำให้เกิดความเชื่อมั่นใจการลงทุนมากขึ้น ความกังวลต่างๆ จึงหมดไป

ส่วน CSL ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 28.33% หรือขึ้นไป 1.70 บาท วัดจากราคาปิดในวันที่ 29 ก.ย. อยู่ที่ 7.70 บาท ขณะที่วันที่ 31 ส.ค. อยู่ที่ 6 บาท รับแรงผลักดันหลัง ADVANC เสนอซื้อหุ้นจาก THCOM-SingTel ที่ราคา 7.8 บาท/หุ้น สูงกว่าราคาในกระดาน

อีกทั้ง GRAND ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 26.88% หรือขึ้นไป 0.25 บาท วัดจากราคาปิดในวันที่ 29 ก.ย. อยู่ที่ 1.18 บาท ขณะที่วันที่ 31 ส.ค. อยู่ที่ 0.93 บาท เป็นการเข้าเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคขาขึ้น และรับแรงหนุนต่อเนื่องจากผลการดำเนินงานที่พลิกมากำไร

เชื่อว่าราคาของหุ้นตัวอย่างในตารางยังมีโอกาสในการขยับขึ้นไปได้ จากปัจจัยต่างๆ เข้ามาสนับสนุน โดยเฉพาะข่าวที่เป็นบวกต่อตัวบริษัท รวมถึงผลประกอบการครึ่งปีหลังจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรก!!

Back to top button