สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (6 ต.ค.) หยุดสถิติปิดบวกติดต่อกัน 7 วันทำการที่ผ่านมา หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่ทรุดตัวลงในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี อย่างไรก็ดี ดัชนีขยับลงไม่มาก เนื่องจากนักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ดิ่งลงดังกล่าวเป็นผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์มา ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ยังคงบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,773.67 จุด ลดลง 1.72 จุด หรือ -0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,549.33 จุด ลดลง 2.74 จุด หรือ -0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,590.18 จุด เพิ่มขึ้น 4.82 จุด หรือ +0.07%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (6 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองในสเปนที่ยังคงไม่ยุติ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายส่วนหนึ่งยังได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 1.56 หรือ -0.40% แตะที่ 389.47 จุด ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีปรับตัวขึ้น 0.3%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,955.94 จุด ลดลง 12.11 จุด หรือ -0.09% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,359.90 จุด ลดลง 19.31 จุด หรือ -0.36% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 74,522.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.88  จุด หรือ +0.20%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องและแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองเกี่ยวกับอนาคตของนางเทเรซ่า เมย์ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลอาจประกาศยุบสภาและจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 14.88  จุด หรือ +0.20% ปิดที่ 7,522.87 จุด ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ดัชนีพุ่งขึ้น 2% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (6 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นใกล้แตะ 51 ดอลลาร์เมื่อวันก่อน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ราคาร่วงลงไปถึงเกือบ 5%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.38 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 55.62 ดอลลาร์/บาร์เรล และลดลง 2.1% ตลอดทั้งสัปดาห์

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 7 ปี แต่นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ทรุดตัวลงดังกล่าวเป็นผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวของพายุเฮอร์ริเคน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ระดับ 1,274.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองลดลงเกือบ 1%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.2 เซนต์ หรือ 0.91% ปิดที่ 16.79 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ปรับตัวลง 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 916.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 17.50 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 919 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (6 ต.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ทรุดตัวลงดังกล่าวเป็นผลกระทบจากปัจจัยเพียงชั่วคราวของพายุเฮอร์ริเคนเท่านั้น

ยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1733 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1704 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3066 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3112 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7773 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7789 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.73 เยน จากระดับ 112.84 เยน อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9785 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9789 ฟรังก์สวิส และอ่อนค่าลงแตะ 1.2532 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.2570 ดอลลาร์แคนาดา