อีกครั้งกับ คุณตลาด

วานนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยทำท่าดีดตัวตามสไตล์ตลาดเช้าวันจันทร์ แต่พอถึงตกบ่าย อาการก็เริ่มน่าเป็นห่วงเพราะแรงขายออกมากันคับคั่ง ท้ายสุดดัชนีก็ปิดลบอีกครั้ง ไม่สามารถทะลุแนวต้านเหนือ 1,700 จุดได้ต่อไป


พลวัตปี 2017 : วิษณุ โชลิตกุล

วานนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยทำท่าดีดตัวตามสไตล์ตลาดเช้าวันจันทร์ แต่พอถึงตกบ่าย อาการก็เริ่มน่าเป็นห่วงเพราะแรงขายออกมากันคับคั่ง ท้ายสุดดัชนีก็ปิดลบอีกครั้ง ไม่สามารถทะลุแนวต้านเหนือ 1,700 จุดได้ต่อไป

การที่ดัชนี SET ปิดตลาดช่วงบ่ายวานนี้ที่ระดับ 1,692.22 จุด ลดลง 3.75 จุด (-0.22%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47,929.95 ล้านบาท มีคำอธิบายของนักวิเคราะห์ฯว่าวานนี้ ตลาดเกิดการพักตัวมากกว่าตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับขึ้น เพราะในช่วงเช้าดัชนีฯปรับขึ้นทดสอบแนว 1,700 จุด แต่ก็ไม่สามารถผ่านไปได้ จากแรงขายทำกำไรที่มีออกมา โชคดีที่มีแรงซื้อหุ้นท่าอากาศยาน และกลุ่มการบินช่วยพยุงตลาดฯเอาไว้ การจะให้ดัชนีฯทะลุแนว 1,700 จุดได้คงจะต้องใช้เวลา

คำอธิบายของนักวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการอธิบายง่ายๆ ว่า ยามนี้ตลาดมีปัจจัยลบมากกว่าปัจจัยบวก  โดยเฉพาะปัจจัยที่ไม่สามารถอธิบายในที่เปิดเผยได้เพราะมีข้อห้ามทางสังคมและกฎหมายกำกับอยู่ในหลายเรื่อง

บรรยากาศของตลาดยามนี้ ชวนให้หวนไปนึกถึงมีนิทานคร่ำคร่าเกี่ยวกับตลาดหุ้น เขียนโดยเบนจามิน แกรห์ม ต้นกำเนิดของกลยุทธ์ลงทุนในพอร์ตโฟลิโอแบบเน้นคุณค่า ซึ่งวอเรน บัฟเฟต เอามาเล่าซ้ำซากอยู่เรื่อยๆ เพราะยังคงใช้การได้คู่กาลเวลา ไม่มีตกยุค

ดังนั้น จึงต้องนำมาเผยแพร่ทบทวนกันอีครั้ง หวังว่าจะไม่เบื่อกันเสียก่อน

แกรห์ม เขียนไว้ว่า

เพื่อนรักคนหนึ่ง ที่นักลงทุนทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้ มีชื่อว่า คุณตลาด ซึ่งเข้ามาสร้างความสนิทสนมกับนักลงทุนเองในทุกๆ เช้า อย่างทำท่าคุ้นเคย แล้วก็บอกว่า ราคาหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดเมื่อวานนี้ในตัวที่เขาสนใจเป็นอย่างไร ราคาเปิด ราคาปิด และความเคลื่อนไหวระหว่างวัน จากนั้นเขาก็สาธยายออกมาว่า เส้นสัญญาณทางเทคนิคบอกเอาไว้ว่าอย่างไร และเบื้องหลังเหตุผล ในการเปลี่ยนแปลงราคาเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง

แล้วคุณตลาดจะบอกอีกว่า เขามีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้สามารถหากำไรจากราคาหุ้นที่เขาซื้อขายได้ จากนั้นเขาก็จะแนะนำหุ้นเด็ดสำหรับเปิดตลาดเช้าวันนี้ให้ โดยบอกว่ามีทีเด็ดอะไรบ้าง

ข้อมูลของคุณตลาดนั้น บอกเอาไว้เลยว่า ไม่ต้องใส่ใจเลยว่า มันจะสัมพันธ์กับคุณค่าหรือตัวเลขทางบัญชี หรือผลประกอบการใดๆ ของบริษัทที่เป็นเจ้าของหุ้นในตลาด เพราะราคาหุ้นย่อมมีความเคลื่อนไหวอย่างเป็นอิสระในระยะสั้นๆ ตามกลไกของตลาดฯ คือแรงขายกับแรงซื้อ

เขาเพียรย้ำว่า อารมณ์อยากซื้อหรือขาย มันเป็นอารมณ์ที่แก้ไขได้ยาก นักลงทุนที่ไหนๆ ก็มีกันในตัว แต่หากสังเกตจะพบได้ไม่ยากในหลายๆ ครั้งว่า ความรู้สึกและอารมณ์ของคุณตลาดนั้น เกิดจากจินตนาการของเขาเอง มากกว่าจากข้อเท็จจริง

ตัวอย่างเช่น เวลาที่เขารู้สึกอิ่มเอิบ เขาจะมองเห็นข้อดีเต็มไปหมด เวลาที่เขาตื่นเต้นคึกคัก เขาจะรีบร้อนซื้อขายมือเป็นระวิง ราวกับว่าจะถูกคนอื่นแย่งซื้อขาย หรือชักผลประโยชน์จากเขามากเกินไป แต่ยามใดที่เขารู้สึกเศร้าหมอง เขาจะมองเห็นแต่เรื่องเศร้าสลดรอบด้าน แล้วก็จะสั่งขายอย่างเดียว

แม้นิสัยอย่างทีกล่าวมาข้างต้นจะน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่คุณตลาดก็มีข้อดีคือ เขาไม่ใส่ใจกับอารมณ์แปรปรวนของคนอื่นๆ เวลาที่มีคนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเขา หรือ ไม่มีใครใส่ใจกับคำแนะนำให้ซื้อให้ขายของเขา เขาก็จะหายหน้าไปพักหนึ่ง แต่วันรุ่งขึ้น เขาก็จะกลับมาทักทาย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เป้าหมายของคุณตลาดก็คือ ให้เพื่อนๆ ของเขาซื้อและขายบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาถือว่า ยิ่งซื้อขายมากเท่าใด จะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย

คุณตลาดไม่เคยบอกกับใครๆ เลยว่า ซินเดอเรลล่าในงานเลี้ยงที่พระราชวังของเจ้าชายรูปงามนั้น หลังเที่ยงคืนไปแล้วจะกลายเป็นสาวใช้ และรถเทียมม้าโก้หรูที่โดยสารมา จะกลายเป็นแค่ฟักทองในสวน กับ หนูโสโครกในท่อระบายน้ำ

เขาบอกว่า หน้าที่ของเขาคือ ให้บริการข้อมูลกับเพื่อนๆ ไม่มีหน้าที่ในการชี้นำเพื่อนๆ ให้ไปตามที่เขาต้องการ เพราะเขาเป็นคนใจกว้าง จิตสงบนิ่ง และเป็นประชาธิปไตยเสมอ

เขาบอกเสมอว่า กระเป๋าเงินสำคัญกว่าไขมันที่อยู่ในสมองเสมอ  เพราะมันทำประโยชน์ให้ได้มากกว่า เนื่องจากจับต้องได้ ไม่ใช่สิ่งเลื่อนลอย

ที่สำคัญ เพื่อนๆ อยากจะต่อว่าหรือด่าทอ หรือขัดคอเขาใดๆ ก็ย่อมได้ทั้งนั้น เพราะเขาเป็นคนด้านชาทางอารมณ์ ที่ไม่เคยถือโกรธใครเลย

สิ่งที่คุณตลาดเตือนเพื่อนๆ ของเขาเสมอ ก็มีอยู่เพียงแค่ว่า อย่ายอมตกอยู่ใต้อิทธิพลของเขา หรืออ้างว่าซื้อขายเพราะเขาชี้นำก็แล้วกัน เพราะเขาไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ คำแนะนำก็เป็นแค่การให้ข้อมูลที่เป็นกลางด้วยสุจริตใจเท่านั้นเอง เพื่อให้เพื่อนๆ รู้ว่ากติกาของเกมที่กำลังกระทำกันอยู่นั้น มันมีอะไรบ้าง

คุณตลาดจะพร่ำย้ำเสมอด้วยถ้อยคำของนักพนันโป๊กเกอร์ว่า “หากคุณนั่งลงที่โต๊ะนานเกินครึ่งชั่วโมง แล้วยังไม่รู้ว่าคนในวงมีใครเป็นหมูตู้บ้าง ขอให้จำไว้เสมอว่า คุณนั่นแหละคือหมูตู้เสียเอง

นิทานเปรียบเปรยเรื่องนี้ มีเป้าประสงค์เตือนสตินักลงทุน ตามประสา จิ้งหรีด เจมินี่ คริกเก็ตในนิทาน พิน็อคคิโอ

ชอบอ่าน หรือชอบฟังหรือไม่ ก็ยังอยากจะเล่าอยู่ดี

Back to top button