IRPC ลุยซื้อสูตร Catalyst จากรัสเซีย หวังดันกำลังผลิตเม็ดพลาสติกแตะ 8 พันตัน/ปี

IRPC ลุยซื้อสูตร Catalyst จากรัสเซีย หวังดันกำลังผลิตเม็ดพลาสติก UHMWPE แตะ 8 พันตัน/ปี ฟากธุรกิจน้ำมันและปิโตรเคมีในช่วง Q4/60 อยู่ในทิศทางที่ดีจากปัจจัยฤดูกาล ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในช่วงขาขึ้น


นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมผลิตเม็ดพลาสติกประเภท UHMWPE (Ultra high molecular weight Polyethylene) ซึ่งมีคุณสมบัติด้านความแข็งแรงเป็นพิเศษเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 8 พันตัน/ปี จากปัจจุบันผลิตได้เพียง 3 พันตัน/ปี หลังจากซื้อสูตรการผลิตสารเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) จากศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งในรัสเซียเพื่อนำมาใช้ในโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก UHMWPE

“รัสเซียเขามีศูนย์วิจัย Catalyst เราก็ติดต่อเขาไปซื้อสูตรสำหรับผลิต UHMWPE ซึ่งมีน้ำหนักโมเลกุลสูงจะมาแทนโลหะได้ ที่เรานำมาทำเครื่องช่วยเดินได้ UHMWPE เป็น plant ใหม่ เราสร้างมา 2 ปีแล้วแต่ปัญหาเรื่องการพัฒนา Catalyst ไม่พอเพียงที่จะ run plant ทำให้ run ได้แค่ 3 พันตัน/ปี ถ้าได้สูตรมาจะทำให้ผลิตได้ 7-8 พันตัน/ปี ส่วนใหญ่ที่นำใช้มากสุดใน battery casing ก็คุยกัน 2 option คือทำที่นี่หรือจ้างเขาทำ” นายสุกฤตย์ กล่าว

นายสุกฤตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการ BEYOND EVEREST ที่เตรียมเสนอรายละเอียดต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในไตรมาส 1/61 จะลดเหลือการลงทุนเพียงส่วนเดียว คือ การก่อสร้างโรงงานพาราไซลีน (PX) ขนาด 9 แสนตัน/ปี มูลค่าลงทุนราว 900 ล้านเหรียญสหรัฐ

เนื่องจากมีความคุ้มค่ากับการลงทุน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกเทคโนโลยีซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ ก่อนจะนำไปสู่การออกแบบและสรุปรายละเอียดเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทต่อไป

ขณะที่การลงทุนอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการขยายกำลังการผลิตโอเลฟินส์ ทั้งเอทิลีน และโพรพิลีน เพิ่มขึ้น 50% หรือได้เอทิลีน 1.5-1.6 แสนตัน/ปี และโพรพิลีน 7-8 หมื่นตัน/ปี จากกำลังการผลิตปัจจุบันโอเลฟินส์ที่กว่า 4 แสนตัน/ปีนั้น จะชะลอออกไปก่อนเพราะมีมูลค่าการลงทุนที่สูงถึง 400-500 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทจะยังไม่มีการลงทุนจนกว่าจะสามารถลดต้นทุนการผลิตลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ต่อไป

โดยบริษัทยังคงยืนยันเป้าหมายกำไรในปี 61 ที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้และเชื่อว่าจะเป็นระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีนี้ เนื่องจากจะไม่มีหยุดซ่อมบำรุงโรงงานเหมือนในปีนี้ ประกอบกับจะรับรู้ผลประโยชน์เต็มปีจากโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) ของโรงกลั่น ที่เดินเครื่องได้ดีขึ้น และการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตัน/ปีที่แล้วเสร็จในสิ้นปีนี้

อีกทั้งยังมีโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน พาวเวอร์ (IRPC-CP) ระยะที่ 2 ขนาด 240 เมกะวัตต์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ 49% ที่จะเริ่มเดินเครื่องผลิตในช่วงเดือนพ.ย. 60

สำหรับสถานการณ์ธุรกิจน้ำมันและปิโตรเคมีในช่วงไตรมาส 4/60 จะยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยในส่วนของค่าการกลั่น (GRM) น่าจะมีโอกาสที่ดีถึงสิ้นปี จากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว ประกอบกับราคาน้ำมันดิบน่าจะยังเป็นช่วงขาขึ้น จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียมีความร่วมมือกันที่จะรักษาระดับเสถียรภาพราคาน้ำมัน

นอกจากนี้ความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่านก็ยังเป็นปัจจัยที่ผลักดันต่อราคาน้ำมันด้วย ด้านธุรกิจปิโตรเคมียังคงทรงตัวในระดับที่ดีตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่เติบโต ซึ่งหนุนให้มีความต้องการใช้ปิโตรเคมีมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ในด้านของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น แม้จะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท แต่ด้วยการที่บริษัทมีการบริหารจัดการที่เหมาะสมทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากส่วนนี้มากนัก

Back to top button