TISCOAM ขายกองทุนใหม่ ชูผลตอบแทน 5%

TISCO ขายกองทุนทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#1 ชูผลตอบแทน 5% ใน 5 เดือน จอง 30ต.ค.-7 พ.ย.


นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด หรือ  เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นจีนมีปัจจัยบวกรออยู่มาก ทั้งจากเศรษฐกิจจีนที่เริ่มฟื้นตัว โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากภาคการส่งออกที่ดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลก

รวมถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กของจีนซึ่งขับเคลื่อนรายได้ต่อ GDP มากถึง 65% เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น การเมืองชัดเจนหลังทางการจีนประกาศรายชื่อผู้นำระดับสูงแทนที่ผู้นำที่เกษียณอายุ ส่งผลให้การปฎิรูปเศรษฐกิจดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ตลาดหุ้นจีนเริ่มมีเสถียรภาพและคาดว่าจะมีเงินลงทุนต่างชาติเข้าไปมากขึ้นเพราะถูกนับอยู่ในดัชนี MSCI หนุนให้ตลาดหุ้นจีนปรับขึ้นได้ในระยะยาว

ดังนั้น เพื่อเป็นการจับจังหวะการลงทุนให้กับลูกค้า บลจ.ทิสโก้จึงเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#1 (TISCO China Equity Trigger 5M Fund 1) โดยตั้งเป้าหมายเลิกโครงการที่ 5% ภายในระยะเวลา 5 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ

โดยการกำหนดเป้าหมาย 5% ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนของกองทุน ในช่วงระยะเวลา 5 เดือนแรก ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ และเป้าหมายดังกล่าวเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ถือเป็นครั้งแรกที่ บลจ.ทิสโก้นำเสนอทริกเกอร์ฟันด์หุ้นจีนที่มีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 5% ภายในระยะเวลา 5 เดือน โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 30 ต.ค.-7 พ.ย. 60

กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็กสร้างรายได้ให้กับประเทศจีนประมาณ 65% ของ GDP คิดเป็น 75% ของการจ้างงานทั้งหมด และคิดเป็น 50% ของรายได้ภาครัฐในการปฏิรูปภาษี เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้นหลังธนาคารกลางจีนประกาศจะลดอัตราส่วนเงินกันสำรองขั้นต่ำ (RRR) ให้กับธนาคารพาณิชย์ที่ปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก

ประกอบกับ เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ภาคการส่งออกของจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาการส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น 8.1% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน” นายสาห์รัชกล่าว

สำหรับกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#1 จะเน้นลงทุนในหุ้นจีนผ่านกองทุนอีทีเอฟ Hang Seng H-Share Index ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนี Hang Seng China Enterprises มีมูลค่าโครงการ  2,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back – end Fee)

ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนจึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

Back to top button