สู่รู้เหลือเกิน

*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งจะใจเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุน ควบคู่กับหุ้นรายตัวที่ทำให้หัวใจแมงเม่ารู้สึกกระปรี้กระเปร่า เพราะเป็นประเด็นที่ทำให้แมงเม่าโหนกระแสได้ทันที และยังมีโอกาสทำให้เงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย แต่เผอิญพรายกระซิบที่แฝงตัวอยู่ในที่ต่างๆ ร้อยท่อต่อสายตรงมายังโต๊ะทำงานของอีฉัน พร้อมกับสาธยายถึงพวกสู่รู้ที่ชอบโชว์พราวในตอนจบ..โอเว่อร์แอ๊คติ้งเกินไปหน่อยนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งจะใจเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุน ควบคู่กับหุ้นรายตัวที่ทำให้หัวใจแมงเม่ารู้สึกกระปรี้กระเปร่า เพราะเป็นประเด็นที่ทำให้แมงเม่าโหนกระแสได้ทันที และยังมีโอกาสทำให้เงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย แต่เผอิญพรายกระซิบที่แฝงตัวอยู่ในที่ต่างๆ ร้อยท่อต่อสายตรงมายังโต๊ะทำงานของอีฉัน พร้อมกับสาธยายถึงพวกสู่รู้ที่ชอบโชว์พราวในตอนจบ..โอเว่อร์แอ๊คติ้งเกินไปหน่อยนะคะ

*เกริ่นนำมาตั้งเยอะแยะ อาจทำให้แฟนคลับสงสัยว่า เดี๊ยนไปกินรังผึ้งที่ไหนมา ถึงออกอาการหัวเสียสุดๆ “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า รู้สึกสะอิดสะเอียนกับท่าทีของพวกนักคิดนักเขียนที่พยายามประโคมข่าว GL ในลักษณะเห็นใจแมงเม่าเสียเต็มประดา พร้อมกับกล่าวโทษการกระทำของ ตลท. กับ ก.ล.ต. เป็นชนวนเหตุที่ทำให้แมงเม่าติดหุ้นกันเป็นเบือแบบนี้..ใช้อวัยวะส่วนล่างคิดกันเหรอค่ะ

*เนื่องจากในช่วงแรกๆ ก็ไม่เห็นมีใครออกมาตีโพยตีพาย หรือพยายามค้นหาข้อมูลให้มากกว่าที่เป็นอยู่สักราย โดยเฉพาะไอ้พวกที่พูดมากในเวลานี้ “โมนิก้า” กล้าชี้หน้าทุกตัวอย่าเปรี้ยวให้มากนัก (เดี๋ยวจะเอาน้ำปลาร้ามาดับเปรี้ยว) เพราะในช่วงแรกๆ ที่ นสพ.ข่าวหุ้น นำเสนอความผิดปกติของการทำธุรกรรม เดี๊ยนเห็นมีแต่คนพยายามช่วยแก้ต่าง และ เออ..ออ..ห่อ..หมก กับบริษัทพีอาร์จอมสร้างภาพที่รับใช้ไอ้ยุ่นแบบสุดลิ่มทิ่มประตูเพียงอย่างเดียวนะคะ

*โดยระหว่างนั้น “โมนิก้า” ก็ยังเห็นบางคนวิ่งเข้าไป ซบไขล่..อุ๊ย..ซบไหล่ แบบไม่กระดากใจ แถมยังมีพวก หน้า_มา..อุ๊ย..หน้าม้า พยายามปั้นข่าวว่า โดนใส่ร้าย..โดนกลั่นแกล้ง..โดนวิชามาร และพยายามดึงบรรดาแมงเม่าไปเป็นโล่มนุษย์แบบนี้ มันเป็นเรื่องที่สะท้อนถึงกึ๋นของผู้สู่รู้ในแวดวงตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดีว่า พร้อมจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าได้ตลอดเวลาแบบนี้..เรื่องนี้ควรตำหนิใคร?

*นอกจากนี้ยังมีพวกโบรกเกอร์ที่พยายามทำตัวเป็นโซ่ข้อกลาง ทั้งที่เห็นกันทนโท่มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง มันยิ่งทำให้เดี๊ยนรู้สึกหงุดหงิดใจมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับขอร้องคนที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่าดัดจริตให้มาก “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกคนโฟกัสเรื่องฉาวๆ ที่เกิดขึ้นให้ถูกจุดสักนิดหนึ่ง อย่าทำตัวเป็นไม้หลักปักขี้ควายมากไปกว่านี้ เดี๋ยวเขาจะหาว่า ไม่รู้จักศึกษาประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย และไม่รู้จัก กฎ กติกา มารยาท นะจะบอกให้

*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่การกลับมาเทรดของ GL หลังจากโดนขึ้นเครื่องหมาย SP จะมีแรงกระหน่ำทิ้งหุ้นอย่างหนักหน่วง จนหุ้นทรุดลงมากองอยู่ที่ 7.65 บาท ลบไป 2.10 บาท หรือลงไป 21.50% ด้วยมูลค่า 532 ล้านบาท เพราะมันเห็นจุดหมายปลายทางของหุ้นคงต้องโดนแขวนยาวในไม่ช้า ซึ่งเป็นผลมาจากข้อสงสัยบนงบการเงินยังไม่ได้รับการแก้ไข วันนี้ถึงเป็นจังหวะของการหนีตายอย่างเดียว ส่วนคนที่ไม่เชื่อตามคำทักท้วง ก็เชิญลุยกันให้เต็มที่นะคะ

*ประเด็นข้างต้นทำให้เดี๊ยนต้องเข้าไปเผือกกับหุ้น KTB อีกครั้งหนึ่ง เพราะเป็นหน่วยงานที่มีการแทงข้างหลังกันตลอดเวลา ขนาดเจ้านายเก่าเคยเกื้อหนุนลูกน้องให้ได้ดิบได้ดี วันนี้ลูกน้องคนดังกล่าวกลับมาแว้งกัดหน้าตาเฉย “โมนิก้า” ถึงมองว่า หุ้นตัวนี้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนแม้แต่นิดเดียว เพราะแต่ละฝั่งจะจ้องถลกหนังหัวกันตลอดเวลา ซึ่งเป็นการสังเวยความแค้นส่วนตัวก่อนหน้านี้ไงล่ะค่ะ

*ส่วนที่เห็นแต่ละฝ่ายเงียบไปในช่วงนี้ ไม่ใช่เลิกแล้วต่อกัน? แต่เป็นเพราะคู่ขัดแย้งกำลังซุ่มเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมจะตะบันหน้าอีกฝ่ายให้หน้าหงาย และคนที่รู้เรื่องคาวๆ ฉาวๆ ภายในแบงก์สีฟ้าดีสุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น “ผยง” เพราะเป็นคนรับคำสั่งตรงให้เช็คบิลผู้บริหารชุดก่อน และตุ๊กตาอีกตัวที่ปรากฏชื่อเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการล้างบางในเที่ยวนี้ แมงลือเขาเอ่ยชื่อถึงคนที่ชื่อ “ไกรรง..ไกรริด” ประมาณนั้นเจ้าค่ะ

*สำหรับสาเหตุที่ทำให้เรื่องนี้ออกไปในแนวบู๊ และต้องพังพาบไปอีกข้างหนึ่ง ก็มาจากการแย่งชิงตำแหน่งที่อีกฝั่งมองว่า โดนอิทธิพลทางการเมืองมาเตะสกัดเสียก่อน บวกกับการทำดีลแต่ละอย่างไม่ใสสะอาดสักเท่าไหร่ จึงเปิดช่องให้คนที่มีอำนาจเล่นงานย้อนหลังได้ตลอดเวลา ส่วนเรื่องดังกล่าวจะจริงเท็จขนาดไหน? คงต้องให้ผู้บริหารทั้ง 2 หน่อออกมาชี้แจงด้วยตนเอง เพราะเดี๊ยนก็ฟังมาจากคนปากโป้งแถวสุขุมวิทอีกทีหนึ่ง แถมเรื่องนี้ก็เป็น “ทอล์คออฟเดอะทาวน์” ในทุกวงเสวนาเสียด้วยแบบนี้..น้องโมบอกได้แค่ว่า รักนะ ถึงเล่าให้ฟัง จุ๊บ..จุ๊บ!

*ตบท้ายกันที่เรื่องร้อนๆ หลังสำนักงาน ก.ล.ต. ดำเนินการกล่าวโทษอดีตผู้บริหาร IEC กับพวกรวม 25 ราย หลังร่วมกันกระทำผิดต่อหน้าที่โดยทุจริต และแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ ทำให้บริษัทเสียหายใหญ่หลวง “โมนิก้า” มองเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่แฟนคลับต้องไปเทียบเคียงกับรายข้างต้น น่าจะทำให้การประมวลภาพเหตุการณ์หลายอย่างชัดเจนขึ้นกว่าเดิม  เดี๊ยนถึงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ เพราะในแวดวงตลาดหุ้นมีคนที่รู้ดีกว่าเดี๊ยนเยอะแยะมากมายนะจะบอกให้

Back to top button