TASCO เก็งกำไร Q2/58 ดีต่อเนื่องโบรกฯ เผยราคามี Upside อีก 14%

บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุว่า คาดว่ากำไรใน Q2/58 ของ TASCO ยังดีต่อเนื่อง ทำให้มีแนวโน้มสูงที่จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น หลังเข้าพบผู้บริหารปลายเดือนนี้ โดยราคาหุ้นปัจจุบัน ยังมี Upside จาก Fair Value อีก 14% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”


บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (14 พ.ค.) ว่า บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ในไตรมาส 1/58 มีกำไรสุทธิ 1,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116% จากไตรมาสก่อน ถือเป็นระดับกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท แม้จะมียอดขายลดลง 25% จากไตรมาสก่อน เหลือเพียง 8,264 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากราคายางมะตอยที่ปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบ แต่อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นมาก

โดยเฉพาะตลาดในประเทศที่ TASCO ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากนโยบายภาครัฐในการอัดฉีดงบประมาณพิเศษสำหรับการก่อสร้างและซ่อมแซมถนน รวมถึงส่วนต่างราคาระหว่างยางมะตอยและน้ำมันดิบในหลายตลาดที่ยังคงสูงกว่าปกติ ช่วยให้ Gross margin ที่รวมผลขาดทุนจากสินค้าคงเหลือและกำไรจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาสินค้าไตรมาสนี้ สูงถึง 19% ส่วนรายการพิเศษอื่นๆที่มีเข้ามาคือ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 75 ล้านบาท และขาดทุนจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ 100 ล้านบาท ด้านโครงสร้างการเงิน TASCO มี Net Gearing ลดลงเหลือ 0.59 เท่า เนื่องจากมีภาระเงินกู้ที่ใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อน้ำมันดิบลดลง

ทั้งนี้การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐสำหรับการก่อสร้าง/ซ่อมแซมถนน ที่คาดว่าจะมีต่อเนื่องไปจนถึงกลางไตรมาส 3/58 น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนผลประกอบการในไตรมาส 2/58 ของ TASCO โดยที่ตลาดต่างประเทศจะกลับมามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดจีนที่เริ่มมีคำสั่งซื้อมากขึ้นหลังช่วงเทศกาลตรุษจีน เช่นเดียวกับตลาดอินโดนีเซียที่ได้รับผลบวกจากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการขยายเส้นทางคมนาคม ทำให้ปัจจุบันโรงกลั่นยางมะตอยในมาเลเซียของ TASCO มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ ขณะที่เรือขนส่งยางมะตอยก็มี order ยาวไปจนถึงกลางไตรมาส 3/58

สำหรับกำไรไตรมาส 1/58 ที่คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 68% จากประมาณการกำไรทั้งปีของฝ่ายวิจัย ขณะที่แนวโน้มกำไรช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะในไตรมาส 2/58 เชื่อว่ายังดีต่อเนื่อง ทำให้ฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มสูงที่จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น หลังเข้าพบผู้บริหารปลายเดือนนี้ โดยราคาหุ้นปัจจุบัน ยังมี Upside จาก Fair Value อีก 14% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

Back to top button