เล่นรอบใหม่

 *สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นเหมือนกับที่ “โมนิก้า” เกริ่นนำไว้เมื่อปลายสัปดาห์ก่อนไม่ผิดเพี้ยน (ขอโม้สักนิดหนึ่ง) จึงไม่หนักใจกับการอ่อนตัวของดัชนีลงมาอยู่ที่ 1,689.28 จุด ลบไป 13.75 จุด ด้วยมูลค่า 5.71 หมื่นล้านบาท เพราะรูปแบบการเคลื่อนตัวก็เป็นเหมือนกับที่คาดการณ์ไว้ จึงเชื่อเหลือเกินว่า ดัชนีจะพยายามไต่ระดับขึ้นไปหาเป้า 1,700 จุดอีกครั้งในไม่ช้าเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นเหมือนกับที่ “โมนิก้า” เกริ่นนำไว้เมื่อปลายสัปดาห์ก่อนไม่ผิดเพี้ยน (ขอโม้สักนิดหนึ่ง) จึงไม่หนักใจกับการอ่อนตัวของดัชนีลงมาอยู่ที่ 1,689.28 จุด ลบไป 13.75 จุด ด้วยมูลค่า 5.71 หมื่นล้านบาท เพราะรูปแบบการเคลื่อนตัวก็เป็นเหมือนกับที่คาดการณ์ไว้ จึงเชื่อเหลือเกินว่า ดัชนีจะพยายามไต่ระดับขึ้นไปหาเป้า 1,700 จุดอีกครั้งในไม่ช้าเจ้าค่ะ

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” มีความมั่นใจสุดติ่งกระดิ่งแมวมันมาจากเหตุการณ์ในช่วง 1 เดือนครึ่ง ดัชนีแกว่งตัวไปมาในกรอบ 1,670-1,730 จุด แม้ในบางจังหวะจะทรุดตัวลงไปลึกกว่าระดับดังกล่าวเยอะ แต่ก็เด้งกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวในบริเวณนี้เป็นประจำ และถ้ามองในแง่ของการเทกตัวทดสอบแนวต้านดังกล่าวบ่อยๆ มันเหมือนเป็นการสะสมแรงซื้อนะจะบอกให้

*วันนี้ถึงยืนยันว่า การที่ฝรั่งตาน้ำข้าวเทขายหุ้นทิ้งกว่า 2.73 พันล้านบาท มันเป็นเหตุผลทางเทคนิค ซึ่งคล้ายคลึงกับยุทธวิธีซื้อๆ ขายๆ ของกองทุนตัวแสบ ก็มาจากการเขย่าพอร์ตให้มีความคล่องตัว เพื่อรอรับหุ้นชุดใหม่ในช่วงขายกองทุน LTF และ RMF ซึ่งเป็นการเปิดช่องให้เกิดข่าวลือในตลาดหุ้นเยอะแยะไปหมด แถมนักเล่นรายใหญ่ก็อาศัยจังหวะบรรยากาศเป็นใจดันหุ้นสุดโต่งกันอย่างเมามันไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ LST พวกขาใหญ่อุตส่าห์บิ้วท์อารมณ์ พร้อมกับเต้าข่าวผ่านพวกแมงลือกันอุตลุด พอประกาศงบไตรมาส 3 กำไรลดฮวบเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 บรรดามิตรรักแฟนเพลงถึงกับโยนหุ้นทิ้งกันอย่างหนักหน่วง จนหุ้นลงมานอนอยู่ที่ระดับ 5.95 บาท ลบไป 1.40 บาท หรือลงไป 19.05% ด้วยมูลค่า 173.41 ล้านบาท มันเป็นการดับกระแสต่างๆ ได้อย่างอยู่หมัด พร้อมกับทำให้ทุกอย่างจบลงในทันทีค่ะ

*ส่วนที่ยังยืดเยื้อกันอยู่ในเที่ยวนี้กลายเป็น CBG หลังจากเกิดกระแสข่าวเม้าท์เกี่ยวกับตัวเลขรายได้และกำไรจากการขยายธุรกิจไปต่างประเทศไม่เคลียร์ ก็ทำให้ชมรมแมงลือป้องปากนินทากันจ้าละหวั่น งานนี้จริงเท็จแค่ไหน..ไม่รู้เหมือนกัน เพราะไปฟังเขามาอีกทีหนึ่งเหมือนกัน แต่ที่พูดได้เต็มปากเต็มคำคือ หุ้นเทรดบน P/E 71 เท่า ทั้งที่หุ้นลงมายืนอยู่ที่ 97.25 บาท ลบไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่า 411.34 ล้านบาท  มันโอเว่อร์รีแอ๊คเกินไปจริงๆ นะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ KCE หุ้นที่มาด้วยกระแสเพียวๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน แถมมีรายใหญ่เป็นคนเคาะนำเป็นประจำ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักเล่นส่วนใหญ่เข้าใจกันเป็นอย่างดี จึงไม่ขออธิบายเหตุผลที่ทำให้หุ้นรูดลงมาปิดที่ 83.75 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 1.76% ด้วยมูลค่า 511.38 พันล้านบาท เพราะในความเป็นจริงหุ้นควรยืนนิ่งๆ อยู่ที่บริเวณ 80 บาทมากกว่านะซี

*สำหรับม้ามืดอย่าง TTW สะสมแรงซื้อมาระยะหนึ่ง ก่อนจะคึกเป็นม้าดีดกะโหลก มันมาจากผลกำไรงวด 9 เดือนโตตามเป้า หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 12.30 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.36%  ด้วยมูลค่า 166.89 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องประเมินแวลูของหุ้นตัวนี้กันเอาเองว่า ต่ำกว่าราคาเหมาะสมหรือเปล่า?..ราคาหุ้นควรจะไปเท่าไหร่?..ถ้าคิดไม่ออกน้องโมใบ้กำไรต่อหุ้นน่าจะจบลงแถว 0.65 บาท เทียบกับพี/อี 20 เท่า ได้เป้าเท่าไหร่..ไปคิดกันเอาเองนะจ๊ะ

*ส่วนอีกหนึ่งทีเด็ดสำคัญ และอยู่ในใจเสมอ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่ IVL หุ้นพิมพ์นิยมสำหรับนักลงทุนที่มีสไตล์แวลูอินเวสเมนต์ โดยเฉพาะในแง่ของการเติบโตของตัวเลขกำไรในปี 60 มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นเร้าใจสุดๆ เมื่อรวมกับแผนการเทกโอเวอร์กิจการใหม่ทุกปี ย่อมเป็นการต่อยอดธุรกิจที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง หุ้นถึงไต่เพดานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมายืนอยู่ที่ 49 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.03% ด้วยมูลค่า 2.17 พันล้านบาทไงล่ะค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีผลประกอบการแจ่มแจ๋วขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับไปดูหุ้นพลังงานทางเลือก BCPG ของคุณพี่ “บัณฑิต” ก่อนดีกว่า แม้การปิดที่ 24 บาท ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่า 594.91 ล้านบาท เป็นการปรับลงเล็กน้อยขัดกันกับเมื่อเทียบกับตัวเลขกำไรที่จะเติบโตในอนาคต เดี๊ยนถึงเห็นคนบางกลุ่มพยายามช้อนหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมาตลอดเวลา  ส่งผลให้ทิศทางของหุ้นอยู่ในลักษณะแกว่งตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเจ้าค่ะ

*ก่อนจากกันขอทิ้งท้ายกันที่หุ้นน้องใหม่ RSP เพื่อเสนอไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการลงทุนระยะกลาง ถึงระยะยาว เพราะคอนเซ็ปต์ที่น้อง “พาพิชญ์” วางแนวทางทำธุรกิจไว้ในเที่ยวนี้ มันเป็นการเติบโตแบบมั่นคงยั่งยืน  ไม่ว่าจะเป็นการรุกตลาดเขมร แผนการขยายสาขา 5 แห่งต่อปี รวมทั้งการส่งสินค้าใหม่ลงตลาด จึงอย่าสงสัยว่า ทำไมเดี๊ยนไม่ยอมพูดถึงราคาเป้าของหุ้นตัวนี้ เพราะแวลูจริงๆ ที่จะทำให้หุ้นขยับขึ้นไปในอนาคต มันอยู่ที่ผลของงานออกมาในระดับไหน?

Back to top button