สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 พ.ย. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงหุ้นแมทเทล และหุ้นไทสัน ฟู้ดส์ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ และจากข่าวที่ว่าบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) ประกาศปรับลดการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสลง 50%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,439.70 จุด เพิ่มขึ้น 17.49 จุด หรือ +0.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,584.84 จุด เพิ่มขึ้น 2.54 จุด หรือ +0.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,757.60 จุด เพิ่มขึ้น 6.66 จุด หรือ +0.10%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า อังกฤษอาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับทางสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการการแยกตัวออกจาก EU (Brexit) รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศอังกฤษ อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักรจำนวน 40 คนได้ลงชื่อในหนังสือขอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.7% ปิดที่ 386.13 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,341.63 จุด ลดลง 39.09 จุด หรือ -0.73% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,074.42 จุด ลดลง 53.05 จุด หรือ -0.40% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,415.18 จุด ลดลง 17.81 จุด หรือ -0.24%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในกรอบจำกัดเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) ด้วยอานิสงส์จากสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในอังกฤษ หลังสื่อท้องถิ่นรายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักรจำนวน 40 คนได้ลงชื่อในหนังสือขอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ซึ่งทำให้ขณะนี้เหลืออีกเพียงอีก 8 รายชื่อก็จะสามารถเริ่มกระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวผู้นำหญิงอังกฤษได้อย่างเป็นทางการ

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 17.81 จุด หรือ -0.24% ปิดที่ 7,415.18 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกปรับตัวลดลงในเดือนต.ค. พร้อมกับคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันของโอเปกจากประเทศต่างๆทั่วโลก จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ขยับขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 56.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 63.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลง อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกรอบเวลาในการบังคับใช้ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ระดับ 1278.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 17.6 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 17.047 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.50 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 935.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 989.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในอังกฤษ หลังจากสื่อท้องถิ่นรายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักรจำนวน 40 คนได้ลงชื่อในหนังสือขอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ซึ่งทำให้ขณะนี้เหลืออีกเพียงอีก 8 รายชื่อก็จะสามารถเริ่มกระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวผู้นำหญิงอังกฤษได้อย่างเป็นทางการ

ปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3116 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3200 ดอลลาร์ ในขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.1668 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1660 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7625 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7659 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน 113.62 เยน จากระดับ 113.56 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9961 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9962 ฟรังก์สวิส

Back to top button