เกมโหด!

* ดูเหมือนรูปแบบการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะเน้นหนักไปที่เรื่องเกมหุ้นมากเกินไป จนทำให้สภาพของการลงทุนเต็มไปด้วยเรื่องเก็งกำไรล้วนๆ ไม่มีการคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานสักเท่าไหร่? ส่งผลให้ภาพของหุ้นบางตัวที่เคยทำท่าจะไปได้สวย สุดท้ายก็กลายสภาพเละเป็นโจ๊ก พร้อมกับมีรายการสาดโคลนกันไปมาตามแบบฉบับพวกหน้าไหว้หลังหลอกไงล่ะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* ดูเหมือนรูปแบบการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะเน้นหนักไปที่เรื่องเกมหุ้นมากเกินไป จนทำให้สภาพของการลงทุนเต็มไปด้วยเรื่องเก็งกำไรล้วนๆ ไม่มีการคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานสักเท่าไหร่? ส่งผลให้ภาพของหุ้นบางตัวที่เคยทำท่าจะไปได้สวย สุดท้ายก็กลายสภาพเละเป็นโจ๊ก พร้อมกับมีรายการสาดโคลนกันไปมาตามแบบฉบับพวกหน้าไหว้หลังหลอกไงล่ะค่ะ

* เมื่อรูปแบบการเล่นออกไปในแนวทางขบวนโหดมาโปรดสัตว์ “โมนิก้า” ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปพูดอะไรมากมายกว่าที่เป็นอยู่ เพราะรูปแบบการเล่นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนกว่ารอบก่อนๆ รวมทั้งนักเล่นก็มองเห็นภาพการลงทุนเก่าๆ ได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมอยู่แล้ว เดี๊ยนจึงขอทำหน้าที่แค่รายงานความเป็นมาเป็นไปตามประสาคนชอบเผือกแล้วกันพะยะค่ะ

* ก่อนอื่นขอเริ่มต้นที่การทรุดตัวของดัชนีลงมาปิดที่ 1,690.26 จุด ลบไป 12.37 จุด ด้วยมูลค่า 6.09 หมื่นล้านบาท น่าจะมาจากการ take profit ของนักเล่นกลุ่มสถาบันเป็นหลัก สภาพของตลาดหุ้นถึงยังไม่มีอะไรดีขึ้น และยังไม่มีอะไรเลวร้ายจนถึงขั้นจิตตก “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูแรงซื้อขายที่เข้ามาในแต่ละรอบให้ดี พร้อมกับพยายามติดตามข่าวสารในแวดวงตลาดหุ้นเป็นระยะนะคะ

* เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ IVL โดนรินเทขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนสุดท้ายหุ้นลงมาปิดที่ 49.50 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 5.25% ด้วยมูลค่า 4.60 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการขายทำกำไร หลังจากหุ้นขึ้นมาเยอะพอสมควร รวมทั้งเป็นการทดสอบคนเข้ามารับของมีเยอะขนาดไหนไปในตัวแบบนี้..อีกสองสามวันหุ้นก็กลับขึ้นมาใหม่ได้จ้า!

* ส่วนรายที่น่ากังวลเหลือเกินในเที่ยวนี้กลายเป็นหุ้นไก่ CPF ถูกเทขายออกมาเรื่อยๆ จนทิศทางของหุ้นอยู่ในทิศทางโค้งตัวลงเป็นเวลาหลายเดือน ขณะที่วานนี้โดนสาดทิ้งไม่ยั้งตลอดทั้งวัน เป็นผลให้หุ้นลงมายืนอยู่ที่ 24.40 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่า 1.66 พันล้านบาท แถมเป็นการหลุดแนวรับ 25 บาทครั้งแรกในรอบ 3 เดือนแบบนี้..ลงยาวแล้วล่ะค่ะ

* เช่นเดียวกับในรายของ CBG กำไรไม่ได้ดีเด่อะไรทั้งนั้น แต่ราคาหุ้นกันโอเว่อร์แอ๊คติ้ง ผลลัพธ์ที่ออกมาถึงจบด้วยเลือดนองพื้น แมงเม่าที่ออกของไม่ทันตายเกลื่อนตลาด “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของชะตาของนักเล่นผู้อ่อนหัด ย่อมตกเป็นเหยื่อถูกลากไปออกของ วานนี้ถึงเห็นหุ้นทรุดตัวลงมายืนอยู่ที่ 98.25 บาท ลบไป 4.25 บาท หรือลงไป 4.15% ด้วยมูลค่า 890 ล้านบาท บอกได้ทันทีว่า หมดสภาพอย่างแน่นอน..คนนั้นที่คุณก็รู้ กล่าวไว้..อิอิอิ

* สำหรับรายที่ประหลาดเกินจะบรรยาย “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้น GFPT ถูกเทขายออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. จนวานนี้ก็ยังถูกเทขายแบบไม่มีเยื้อใย จากหุ้นที่เคยยืนอยู่แถว 20 บาท ล่าสุดลงมายืนอยู่ที่ 15.50 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 5.50% ด้วยมูลค่า 225 ล้านบาท เดี๊ยนตีความได้ทันทีว่า น่าจะเป็นการส่งสัญญาณให้บางคนรู้ว่า งบไตรมาส 4 น่าจะไม่สวย หลังจากไตรมาส 3 กำไรโตแค่ 2% ใช่ไหมเอ่ย?

* อีกหนึ่งรายที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการงงหนักขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า คงไม่มีใครเกินกว่าหุ้น BJC ก็ของมันเห็นกันเต็มลูกตาว่า งบออกมาไม่สวย หุ้นดันวิ่งสวนขึ้นมาปิดที่ 54.25 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 5.35%  ด้วยมูลค่า 1.46 พันล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้แมงเม่ามองตาค้างกันเป็นแถว เพราะเป็นเรื่องที่ขัดกับแนวทางปฏิบัติที่มีมาอย่างยาวนาน จึงต้องปล่อยไปตามยถากรรมนะซี

* เหมือนกับในรายของหุ้นดาวร้าย GL ทะยานขึ้นมาปิดที่ 9 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 10.40% ด้วยมูลค่า 370 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตยั่วให้ทางการต้องตามดมกลิ่นออเดอร์ที่เคาะเข้ามาแรงๆ มีการรับใบสั่งทำราคาจากใครหรือเปล่า? เพราะตามธรรมชาติของหุ้นที่มีปัญหาติดตัวเยอะแยะ ไม่น่าจะมีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ครั้งนี้กลับมีคนเข้ามาเล่นเยอะผิดปกติ ทุกคนเลยต้องหาคำตอบของเรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าค่ะ

* ส่วนกรณีของ DTAC ก็เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่หาคำตอบมาอธิบายได้ยากเหมือนกัน ก็ของมันเห็นกันทนโท่ว่า กำไรต่ำกว่าปีก่อน แถมแนวโน้มการทำธุรกิจก็ไม่สดใส อีกทั้งยังต้องควักเงินลงทุนอีกเป็นจำนวนมาก เหตุไฉน! หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 46.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบนค่า P/E 66 เท่า..น่าสนใจ หรือ มันน่ากลัว..ลองถามใจเธอดูพะยะค่ะ

* ตบท้ายกันที่เรื่องฮอตฮิตของหุ้นน้องใหม่ RSP จากหุ้นที่เคยมีทรงดีไม่กี่วัน สุดท้ายกลายเป็นหุ้นเสียทรง หลังบรรดาขาใหญ่ที่ช่วยดันเมื่อวันก่อน พากันสาดหุ้นแบบไม่ดูดำดูดีเหมือนบริษัทกำลังมีปัญหา บรรดาขาเม้าท์เลยลงความเห็นว่า ตัวการใหญ่น่าจะมาจาก เสี่ย ป. กับ เสี่ย ย. เริ่มขยับอะไรบางอย่าง บรรดาลูกหาบก็เลยขยับตามกันเป็นพรวน หุ้นถึงลงมาปิดต่ำสุดของวันที่ 7 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 12.50% ด้วยมูลค่า 783 ล้านบาท..งานนี้เขาเม้าท์กันว่า พี่เทพรู้ดีสุด..จริงป่าว!

Back to top button