สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 พ.ย. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) โดยตลาดได้รับปัจจัยกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมัน รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า นายรอน จอห์นสัน วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันได้ออกมายืนยันว่า เขาจะไม่โหวตสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภา หลังจากวุฒิสภาได้สร้างเงื่อนไขใหม่ด้วยการพ่วงการยกเลิกเนื้อหาส่วนหนึ่งของกฎหมายโอบามาแคร์เข้ากับแผนการปฏิรูปภาษี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,271.28 จุด ร่วงลง 138.19 จุด หรือ -0.59% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,564.62 จุด ลดลง 14.25 จุด หรือ -0.55% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,706.21 จุด ลดลง 31.66 จุด หรือ -0.47%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 7 เมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 381.96 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.ปีนี้

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,976.37 จุด ลดลง 57.11 จุด หรือ -0.44% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,301.25 จุด ลดลง 14.33 จุด หรือ -0.27% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,372.61 จุด ลดลง 41.81 จุด หรือ -0.56%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบติดต่อกัน 5 วันทำการเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) จากปัจจัยราคาน้ำมันที่ดิ่งลง ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงกันถ้วนหน้า นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากราคาแร่โลหะสำคัญที่ปรับตัวลง ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ส่วนใหญ่ปิดในแดนลบเช่นกัน

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 41.81 จุด หรือ -0.56% ปิดที่ 7,372.61 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง ขณะที่การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 55.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.ปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 61.87 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นในเดือนต.ค. อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ระดับ 1277.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. ลดลง 10.2 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 16.971 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 933.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 985.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. ซึ่งขยายตัวถึง 2.0% เมื่อเทียบรายปี ส่วนเมื่อเทียบเป็นรายเดือนนั้น ดัชนี CPI ขยับขึ้น 0.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1793 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1795 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3168 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3170 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7584 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7635 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.95 เยน จากระดับ 113.38 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9888 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9893 ฟรังก์สวิส

Back to top button