ยลโฉม 14 หุ้นบลูชิพฟอร์มเก๋า กำไร Q3 โตสนั่นเกิน 20%

ผ่านไปแล้วสำหรับการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น (บจ.) ที่สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย.60 โดยนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง โดยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น (SET) มีกำไรหลักเติบโต 24% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 10% เทียบกับไตรมาสก่อน มากกว่าที่คาดไว้ราว 6% กลุ่มที่กำไรแข็งแกร่ง เช่น อสังหาฯ ปิโตรเคมี ค้าปลีก เป็นต้น

ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 7% ผลประกอบการที่ดูไม่ดีนักส่วนใหญ่กระจุกตัวและเป็นเพียงบางบริษัทเท่านั้น เช่นการตั้งด้อยค่าของ PTTEP ซึ่งมากระทบ PTT อีกต่อหนึ่งด้วย และประกอบกับผลประกอบการ SCC ที่ต่ำคาด รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 โดยใช้เกณฑ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 กำไรมีการเติบโตเกิน 20% จากไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อน

ทั้งนี้จะพบว่ามีบจ.ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวทั้งหมด 14 บจ. ดังนี้ BANPU, RATCH, BPP, MTLS, LH, PTG, PSH, SCCC, EA, TISCO, HMPRO, EGCO, GPSC และ ROBINS

ตารางแสดงผลประกอบการไตรมาส 3/60

 

อันดับที่ 1 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/60 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.60 (รวมบริษัทย่อย)  มีกำไร 2.02 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,788% จากปีก่อน 70.12 ล้านบาท ส่วนงวด 9เดือนมีกำไร 5.72 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,301% จากปีก่อน 168.14 ล้านบาท

โดยกำไรเพิ่มขึ้นมากจากราคาตลาดถ่ายหินที่สูงต่อเนื่อง อีกทั้งผลการดำเนินงานของธุรกิจไฟฟ้าหงสาและ BLCP เป็นไปตามแผน ส่งผลให้รายได้จากการไตรมาส 3/60 มาที่ 24,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหรือคิดเป็นร้อยละ 23

อันดับที่ 2 บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.60 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไร 1.86 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.16% จากปีก่อนมีกำไร 841.51 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกมีกำไร 5.42 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.29% จากปีก่อนมีกำไร 3.20 พันล้านบาท

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ ส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มขึ้น

อันดับที่ 3 บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/60 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.60 (รวมบริษัทย่อย)  มีกำไร 837.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไร 3.72 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อน 3.04 พันล้านบาท

โดยกำไรเพิ่มขึ้นมากจากราคาตลาดถ่ายหินที่สูงต่อเนื่อง อีกทั้งผลการดำเนินงานของธุรกิจไฟฟ้าหงสาและ BLCP เป็นไปตามแผน ส่งผลให้รายได้จากการไตรมาส 3/60 มาที่ 24,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหรือคิดเป็นร้อยละ 23

อันดับที่ 4 บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.60 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไร 650.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% จากปีก่อนมีกำไร 400.93 ล้านบาท ส่วนที่ 9 เดือนแรกมีกำไร 1.76 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% จากปีก่อนมีกำไร 981.23 ล้านบาท

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมียอดปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 1.53 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.76 พันล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 45.39

อันดับที่ 5 บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.60 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไร 3.13 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จากปีก่อนมีกำไร 1.99 พันล้านบาท ส่วนที่ 9 เดือนแรกมีกำไรอยู่ที่ 8.51 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อนมีกำไร 6.62 พันล้านบาท

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายและรายได้ค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

 

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน