พาราสาวะถี

โผครม.ตามข้อสรุปของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา งวดเข้ามาทุกขณะ โดยท่านผู้นำยอมรับว่า ได้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯถวายแล้ว นอกจากจะไม่ลดการนำเสนอข่าวหรือคาดเดาตามที่ท่านผู้นำขอความร่วมมือ สื่อยังมีการตามติด จับตาความเคลื่อนไหวบุคคลที่อยู่ในข่ายว่าจะได้รับการแต่งตั้ง ที่ยืนยันพันเปอร์เซ็นต์ว่าไม่พลาดเก้าอี้รัฐมนตรีแน่ๆ คือ พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม


อรชุน

โผครม.ตามข้อสรุปของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา งวดเข้ามาทุกขณะ โดยท่านผู้นำยอมรับว่า ได้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯถวายแล้ว นอกจากจะไม่ลดการนำเสนอข่าวหรือคาดเดาตามที่ท่านผู้นำขอความร่วมมือ สื่อยังมีการตามติด จับตาความเคลื่อนไหวบุคคลที่อยู่ในข่ายว่าจะได้รับการแต่งตั้ง ที่ยืนยันพันเปอร์เซ็นต์ว่าไม่พลาดเก้าอี้รัฐมนตรีแน่ๆ คือ พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม

ดีกรีคือน้องรักของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ วันก่อนยื่นใบลาออกจากความเป็นสมาชิกสนช. ล่าสุด ก็ไขก๊อกจากการนั่งเป็นบอร์ดของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) แต่งตัวรอขนาดนี้จะพลาดเก้าอี้ได้อย่างไร กลายเป็นว่านอกจากไม่หลุดเก้าอี้เดิมและเด็กในคาถาอย่าง “บิ๊กแป๊ะ” พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ยังเกาะตำแหน่งผบ.ตร.เหนียวแน่น บิ๊กป้อมยังได้เพิ่มอีกต่างหาก

งานนี้เป็นการแสดงความซี้ย่ำปึ้กประเภทถ้าพี่ไม่ดีจริงผมก็ไม่คบไม่นับถือระหว่างพี่ใหญ่กับน้องเล็ก แต่สิ่งที่บิ๊กป้อมต้องระวังเป็นพิเศษ ถึงขั้นประกาศชัดๆ ว่านายทหารคนสนิทหรือคนใกล้ชิด ห้ามไปมีเรื่องทุจริตเป็นอันขาด หากมีหลักฐานให้แจ้งมาจะลงโทษเด็ดขาด ฟังดูแข็งขันแต่มันจะตายตอนจบก็ตอนเรียกหาใบเสร็จนี่แหละ

สำหรับรัฐมนตรีรายอื่น ที่ไม่มีวี่แววมาก่อน แต่พอเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย กลับกลายเป็นว่าน่าจะถูกเด้งชัวร์ๆ นั่นก็คือ กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในวันประชุมครม.เมื่อวันอังคาร ถูกนักข่าวถามเจ้าตัวก็ตอบแบบทำใจมาล่วงหน้า ยินดีไม่ว่าจะถูกย้ายไปตรงไหนเพื่อถือว่าได้ทำงานเพื่อประเทศชาติ และที่ผ่านมาก็ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังและเห็นผลหลายประการ

ต่อเนื่องถึงวันวาน นักข่าวก็พบว่ากอบกาญจน์ได้มีการทำเรื่องคืนรถประจำตำแหน่งทั้งของตนเองและของทีมงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมๆกับทีมงานเจ้าหน้าที่ที่ทยอยเก็บของในห้องทำงานของเจ้ากระทรวงที่ยึดเก้าอี้มาอย่างเหนียวแน่น แน่นอนว่า เมื่อมาสูตรนี้ นี่เป็นการเปิดทางให้รัฐมนตรีที่ไม่ใช่ทหารนามว่า วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีของกระทรวงนี้ได้กลับมากุมบังเหียนอีกคำรบ

เมื่อเป็นเช่นนั้นก็น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในมิติทางการเมืองเพราะ มันชวนให้ต่อจิ๊กซอว์ต่อไปว่าก่อนหน้านั้นก็มีชื่อของ ยุคล ลิ้มแหลมทอง อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเดียวกันในยุคของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากโควตาพรรคปลาไหลเข้าร่วมครม.ประยุทธ์ 5 เช่นเดียวกัน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

หลายคนก็นึกไปถึงภาพทั้ง วราวุธ ศิลปอาชา ประภัตร โพธสุธน และใครต่อใครอีกหลายรายจากพรรคชาติไทยพัฒนาที่ไปยื่นให้กำลังใจพร้อมเยินยอบิ๊กตู่เมื่อคราวลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ก่อนประชุมครม.นอกสถานที่ที่พระนครศรีอยุธยาเมื่อหลายเดือนก่อน นี่เป็นการซื้อใจ ต่อท่อสร้างสัมพันธ์ก่อนการเลือกตั้งกันเลยอย่างนั้นหรือ

เมื่อไปถามพลเอกประยุทธ์ย่อมจะมีคำอธิบายในมุมของการเชิญผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมงานและลบภาพของการตั้งรัฐมนตรีจากโควตาเพื่อนพ้องน้องพี่ไปอย่างเนียนๆ เช่นเดียวกับคนของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่จะต้องยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ดีที่คนของพรรคได้รับเกียรติและไม่ใช่เรื่องเสียหายเพราะถือว่าเข้าไปทำประโยชน์ให้บ้านเมือง

นี่คือการตอกย้ำยุคของคนดี ทำอะไรไปมักจะไร้เสียงวิจารณ์หรือไม่ก็แค่แตะๆ พอเป็นพิธี เมื่อภาพออกมาเช่นนี้ 1 จาก 6 คำถามที่ว่าคสช.จะตั้งพรรคหรือสนับสนุนพรรคการเมืองใดเป็นสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายหรือไม่ ก็จะเห็นภาพได้ชัดเจนและไม่ต้องคาดเดากันอีกต่อไปว่า พรรคที่จะตั้งชื่ออะไรและพรรคไหนจะได้รับการสนับสนุน ด้วยเหตุนี้กระมังที่ทำให้ อนุทิน ชาญวีรกูล จึงกล้ายืนยันเสียงดังฟังชัดว่า ไม่มีวันที่พรรคภูมิใจไทยจะไปควบรวมกับพรรคของทหาร

สรุปแล้ว มองไปมองมา การปรับเปลี่ยนครม.เที่ยวนี้ คงไร้บุคคลประเภทโปรไฟล์เยี่ยม คุณสมบัติเจิดจรัส เดินไปไหนมาไหนมีแต่สปอตไลท์ตามจับตาอยู่ตลอดเวลา เพราะโดยสรุปคือ “ตัวคุมเกม” ในรัฐบาลยังอยู่กันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่ พี่รองและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นการขยับเพื่อลดภาพของรัฐบาลนายพลเท่านั้น

ส่วนข้าราชการที่ใครมองว่าน่าจะใส่เกียร์ว่าง ไม่ขยันขันแข็งช่วงเปลี่ยนผ่านคงไม่ใช่ เพราะอย่างน้อยก็เห็นได้ชัดที่สำนักงานอัยการสูงสุด ที่ล่าสุด มีการปัดฝุ่นคดีค้างเก่าของ ทักษิณ ชินวัตร โดยอ้างกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2560 มีผลบังคับใช้ ซึ่งได้มีการนำสำนวนคดีกล่าวหาทุจริตออกกฎหมายแปลงสัมปทานโทรคมนาคมและมือถือเป็นภาษีสรรพสามิต

กับคดีที่กล่าวหาร่วมทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร ยื่นร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งการจำหน่ายคดีชั่วคราวของทั้งสองสำนวน ก่อนที่จะมีการออกตัวว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้พุ่งเป้าดำเนินการเฉพาะเจาะจงกับคนชื่อทักษิณ

บริบทแห่งการทำงานและชื่อคนที่ปรากฏจะอธิบายอย่างไร ฝ่ายกองแช่งก็หลับหูหลับตายกมือหนุนอยู่แล้ว แต่คนทั่วไปโดยเฉพาะกองเชียร์คงมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกเหนือจากภารกิจด้านการเมือง หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เท่ากับว่าเป็นการขยันที่ไม่น่าจะได้รับการชื่นชม มิหนำซ้ำ ยังจะเป็นบทพิสูจน์คำพูดของท่านผู้นำก่อนหน้าที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายก้าวข้ามทักษิณ แท้ที่จริงแล้วใครกันแน่ที่วนเวียนหากินอยู่กับผีทักษิณ

จะอ้างว่าทุกอย่างเป็นการดำเนินตามกฎหมาย ก็พูดได้แต่ข้อเท็จจริงทั้งกระบวนการออกกฎหมายและวิธีการที่ใช้ มันส่อเจตนาที่ชัดเจน ซึ่งนั่นมันก็จะเป็นที่มาของปุจฉาต่อไปว่า แล้วสามารถจัดการหรือทำอะไรทักษิณได้หรือไม่ คำตอบคือความเคลื่อนไหวที่เห็นและเป็นไปของคนแดนไกลเป็น เช่นเดียวกับกรณีของยิ่งลักษณ์ที่วันนี้ยังไม่มีใครยืนยันได้เต็มปากเต็มคำว่าหลบลี้หนีไปอยู่ที่แห่งหนใด

Back to top button