ITEL ทุกหน่วยธุรกิจพร้อมหนุนกำไร

ต่อจากนี้ไป คงได้เห็น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL มีศักยภาพแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทุกหน่วยธุรกิจจะสร้างผลตอบแทนอย่างเต็มที่


คุณค่าบริษัท

ต่อจากนี้ไป คงได้เห็น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL มีศักยภาพแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทุกหน่วยธุรกิจจะสร้างผลตอบแทนอย่างเต็มที่

ตั้งแต่ธุรกิจเช่าวงจร Fiber Optic (Data service) มีแนวโน้มเติบโตสูง ที่ผ่านมาบริษัทเร่งการเชื่อมโครงข่ายไปยังจุดเชื่อมต่อของลูกค้า ซึ่งบริษัทได้ลูกค้า Corporate เข้ามาหลายรายที่จะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปี 2560 นี้ เพิ่มขึ้น เช่น SAWAD, AEONTS, TIPCO, กองสลากฯ เป็นต้น คาดหนุนให้ utilization rate ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 22% ได้ภายในสิ้นปีนี้ (เพิ่มขึ้นจาก 17% เมื่อต้นปี) ทำให้เชื่อว่ากำไรไตรมาส 4 ปี 2560 จะเติบโตสูงทั้งจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน

ประกอบกับงานอินเทอร์เน็ตชายขอบที่บริษัทชนะการประมูลมาก่อนหน้านี้ คาดจะเร่งทำงานรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2560 ไปจนถึงปีหน้า คาดกำไรปี 2561 จะเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการเติบโตของธุรกิจ Data service แล้ว คาดการรับรู้รายได้งานอินเทอร์เน็ตชายขอบมูลค่า 1,868.2  ล้านบาทที่บริษัทได้รับงานเข้ามาก่อนหน้านี้จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนผลประกอบการในปีหน้า ซึ่งโครงการนี้ กสทช.กำหนดให้แล้วเสร็จ 100% ภายใน เดือน ส.ค. 2561

ดังนั้นมองว่า รายได้ส่วนงานติดตั้งจะมีการรับรู้รายได้ราวไตรมาสละ 100-150 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 1-ไตรมาส 3 ปี 2560 ส่งผลให้รายได้เติบโตก้าวกระโดดจากฐานรายได้ปัจจุบันที่ราว 200 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะเป็นไตรมาสละ 300-400 ล้านบาท

รวมถึง  Data center แห่งที่ 2 จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปีนี้ หลังจากที่ Data center แห่งแรกมีผู้เช่าเต็มแล้ว และมีกำไรปีละ 20-30 ล้านบาท บริษัทสร้าง Data center แห่งที่ 2 ขนาด 624 racks (ใหญ่กว่าแห่งแรกที่ 348 racks) คาดเริ่มรับรู้รายได้ปี 2561 เป็นต้นไป และกำไรจาก Data center แห่งที่ 2 คาดเติบโต 100% ต่อปี ไปอีก 3 ปี ปัจจุบันบริษัทมีข้อตกลงการเช่า (Pre-sale) แล้ว 30% (200 racks) ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจว่ากำไรจะเป็นไปตามคาด

ทุกหน่วยธุรกิจจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2560 จนถึงปี 2561 ให้เติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 237.82 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 159.85 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากงานบริการโครงข่าย, รายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่าย และรายได้จากการให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 27.62 ล้านบาท หรือ 0.03 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 19.83 ล้านบาท หรือ 0.03 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 631.78 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 514.66 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 70.87 ล้านบาท หรือ 0.07 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 55.69 ล้านบาท หรือ 0.09 บาทต่อหุ้น แสดงความแข็งแกร่งอย่างชัดเจนทางธุรกิจ

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ยังมีมุมมองในเชิงบวกจึงคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) 299,999,300 หุ้น 60%
  2. นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ 22,000,000 หุ้น 4.40%
  3. นายนเรศ งามอภิชน 14,000,000 หุ้น 2.80%
  4. นายศึกษิต เพชรอำไพ 11,716,500 หุ้น 2.34%
  5. นายศักดิ์ชัย ศักดิ์ชัยเจริญกุล 9,250,000 หุ้น 1.85%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ
  2. นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา กรรมการอิสระ
  3. นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตรวจสอบ
  4. นายสมบัติ อนันตรัมพร รองประธานกรรมการ
  5. นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ

Back to top button