“วินท์คอม เทคโนโลยี” พร้อมเทรดปลายธ.ค.นี้ มั่นใจมีศักยภาพเติบโตสูง

“วินท์คอม เทคโนโลยี” พร้อมเทรดปลายธ.ค.นี้ มั่นใจมีศักยภาพเติบโตสูง ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอย่างทั่วถึงและครบวงจร


นายณรงค์ อิงค์ธเนศ ประธานกรรมการ บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ VCOM เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เทคโนโลยี ด้านคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ ออราเคิล (Oracle ), ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ( Hitachi Data Systems ), พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ (Palo Alto Networks), อริสต้า เน็ตเวิร์กส์ (Arista Networks),  อินโฟบล็อกซ์ (Infoblox), อินฟอร์เมติก้า (Informatica) และ สปลังค์ (Splunk) ซึ่งบริษัทเป็นผู้นำในการผลิตระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ในรูปแบบลักษณะการขายแบบโซลูชั่น อาทิ คอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หน่วยเก็บข้อมูล ระบบคอมพิวเตอร์แบบรวมศูนย์ ระบบรักษาความปลอดภัยบนระบบเครือข่าย ระบบฐานข้อมูล ระบบปฏิบัติการ ระบบเสมือน มิดเดิ้ลแวร์ ซอฟต์แวร์พัฒนาระบบ และซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการข้อมูล

รวมถึงการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ บริการติดตั้งระบบ บริการบำรุงรักษาระบบทั้งแบบป้องกัน และแบบแก้ไข  และบริการงานเฉพาะทางที่ต้องใช้ความชำนาญจากผู้เชี่ยวชาญด้านไอที เช่น การปรับปรุงหรือโอนย้ายฐานข้อมูล การโอนย้ายระบบงาน การปรับค่าตัวแปรต่างๆ ของระบบ เป็นต้น

ปัจจุบันองค์กรขนาดใหญ่ให้ความสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น จากการให้บริการที่หลากหลาย จำนวนลูกค้าที่เพิ่มปริมาณมากขึ้น อุปกรณ์พวกคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หน่วยเก็บข้อมูล ระบบคอมพิวเตอร์แบบรวมศูนย์ ระบบรักษาความปลอดภัยบนระบบเครือข่าย ระบบฐานข้อมูล ระบบปฏิบัติการ ระบบเสมือน มิดเดิ้ลแวร์ ซอฟต์แวร์พัฒนาระบบ และซอฟต์แวร์ ที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการข้อมูล เหล่านี้จึงนำมาเป็นตัวช่วยในการทำงาน

และยังช่วยป้องกันความเสี่ยงข้อมูลสูญหายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นจากความต้องการใช้ระบบเทคโนโลยี ที่ต้องคำนึงถึงระบบความปลอดภัยที่สูง VCOM จึงสามารถตอบโจทย์ในทุกๆ โซลูชั่น ที่ครบวงจร” นายณรงค์ กล่าว

ด้าน นางทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต กรรมการผู้จัดการ VCOM  เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ ถือเป็นแนวทางในการสร้างโอกาสการลงทุน และต่อยอดธุรกิจในอนาคต เพราะเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

โดยเฉพาะการขยายงานขายโครงการใหญ่ทั้งในประเทศและประเทศในกลุ่ม CLM หรือ กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ ซึ่งมองว่าเป็นประเทศอยู่ในช่วงของการพัฒนาเศรษฐกิจ ความต้องการสินค้าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์จึงมีความต้องการใช้สูง

สำหรับจุดแข็งของ VCOM นอกเหนือจากที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Distributor) และการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์(Vendor) 7 รายใหญ่ระดับโลกแล้ว บริษัทยังได้รับความไว้วางใจจาก กลุ่มลูกค้าระดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ ประกอบด้วย ผู้รวบรวมระบบงาน (system integrators) และผู้ใช้งานทั่วไป (end users) ประเภทองค์กรขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน

นอกจากธุรกิจข้างต้นแล้ว บริษัทฯยังมีบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี (เมียนมาร์) จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาและบริการในประเทศเมียนมาร์ และบริษัท วีเซิร์ฟพลัส จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และงานบริการหลังการขายผ่านการให้บริการของศูนย์บริการทั้ง 13 แห่ง

เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพความแข็งแกร่ง และความครบวงจรของธุรกิจ เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ร่วมทุนกับบริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (VST ECS) (ชื่อเดิม คือ บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด) จัดตั้ง บริษัท วีเซิร์ฟพลัส จำกัด ทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท

โดย VCOM ถือหุ้น 51% และ VST ECS ถือหุ้น 49% เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการด้านไอที  ไปจนถึงบริการ Call Center  บริการหลังการขายผ่านศูนย์บริการทั่วประเทศ ทำให้สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง ทั้งในกลุ่มลูกค้าองค์กรและลูกค้ารายย่อย ซึ่งธุรกิจการให้บริการดังกล่าวจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ VCOM อีกธุรกิจหนึ่ง” นางทรงศรี กล่าว

ขณะที่ นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ  บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ในการนำหุ้น บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)  เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอหุ้นที่ออกใหม่และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.67% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ

ล่าสุด VCOM ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต.ให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบัน VCOM มีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท และทุนชำระแล้ว 110 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน220 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 80 ล้านหุ้น

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง จากความต้องการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลของบริษัทชั้นนำ หรือแม้แต่ภาครัฐเองก็ตาม

โดยผลการดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลัง ปี 2557 มีรายได้ 743 ล้านบาท กำไรสุทธิ 45 ล้านบาท , ปี 2558 มีรายได้ 816 ล้านบาท กำไรสุทธิ 41 ล้านบาท , ปี 2559 มีรายได้ 949 ล้านบาท กำไรสุทธิ 46 ล้านบาท (กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 41 ล้านบาท)

ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2560 มีรายได้ 1,119 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56 ล้านบาท (กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 44 ล้านบาท) ซึ่งสัดส่วนรายได้ปี 2559 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2560 มาจากการจำหน่ายสินค้า ประมาณ  75% และอีก 25% มาจากรายได้การให้บริการ นอกจากนี้ บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ

Back to top button