SIRI สามเกลอขายว่าว

สงครามชิงพื้นที่สื่อของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI มีผลให้ราคาหุ้นตัวนี้ในไตรมาสสามและสี่ สร้างความคึกคักมาอย่างต่อเนื่อง...ไม่เกี่ยวกับต่างชาติเข้ามาเยอะหรือกองทุนเข้าซื้อมากจนล้นอะไร แต่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมการเงินที่จะต้องเกิดขึ้นในไตรมาสสี่ของปีนี้นั่นเอง


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

สงครามชิงพื้นที่สื่อของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI มีผลให้ราคาหุ้นตัวนี้ในไตรมาสสามและสี่ สร้างความคึกคักมาอย่างต่อเนื่อง…ไม่เกี่ยวกับต่างชาติเข้ามาเยอะหรือกองทุนเข้าซื้อมากจนล้นอะไร แต่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมการเงินที่จะต้องเกิดขึ้นในไตรมาสสี่ของปีนี้นั่นเอง

เบื้องหลังปรากฏการณ์หุ้นวิ่งแรงดังกล่าวมาจากเหตุผลว่าใกล้จะสิ้นสุดอายุของ SIRI–W2 ที่มีราคาแปลงสิทธิ 2.50 บาทเป็นหุ้นสามัญเป็นสำคัญ

ก่อนหน้านี้ใครก็รู้ดีว่าราคาหุ้น SIRI ที่ต่ำเตี้ยอยู่แถว 2.00-2.10 บาทมานานพอสมควร ทำให้ยากที่จะมีการแปลงสิทธิ์ เพราะแปลงแล้วขาดทุน สู้ไปซื้อหุ้นแม่ในกระดานดีกว่ากันเยอะ

เพียงแต่ผู้บริหารของ SIRI กลับคิดต่างมุมไปว่า SIRI-W2 ที่เหลือให้แปลงสิทธิครั้งสุดท้ายมากถึง 3,406 ล้านหน่วย หากมีคนยอมแปลงสิทธิทั้งหมดอย่าง “เสียสละ” จะทำให้มีเงินสดเข้ามาในบริษัทมากถึง 8,500 ล้านบาท ช่วยให้สภาพคล่องที่สัดส่วนทางการเงินของ SIRI ดีขึ้นมาทันตาเห็นไม่ต้องจมปลักกับภาระหนี้สินที่แบกเสียหลังแอ่นมายาวนาน

ปฏิบัติการจูงใจนักลงทุนสารพัดถูกงัดเอามาใช้ชนิดโยเซฟ ก็อบเบิ้ลได้อาย ถูกนำมาใช้ เพื่อเป้าหมายชี้ว่าอนาคตของ SIRI แจ๋วแหววแค่ไหนจึงเกิดขึ้นต่อเนื่องชนิดปูพรมสร้างกระแสไม่มีขาด

ข้อมูลข่าวสารที่เป็นบวก นับจากทยอยแจ้งข่าวดีทั้งผลการดำเนินงานที่สดใส และยังมียอดขายที่แรงเกินคาดจนต้องปรับเป้ายอดขายขึ้นไปเป็น 40,000 ล้านบาท …ล้วนมีเป้าหมายเดียวเดี่ยวโดด คือ สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนเข้ามาถือหุ้น SIRI กันอย่างล้นหลาม

โดยเฉพาะช่วงเดือน ตุลาคม เป็น “โค้งสุดท้าย” ที่เข้าใกล้ช่วงสิ้นสุดการแปลง SIRI–W2 นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ ประกาศนำร่องใช้สิทธิแปลง SIRI-W2 ไปก่อนใครแปลงเป็นหุ้น 40 ล้านหุ้นใช้เงินไป 100 ล้านบาท

ไล่เลี่ยกันไม่ให้น้อยหน้า บอสใหญ่ นายอภิชาติ จูตระกูล ในฐานะ ประธานอำนวยการออกโรงถัดมา ประกาศว่า เตรียมทุ่ม 100 ล้านบาทเช่นกัน เพื่อเตรียมใช้สิทธิแปลง SIRI–W2

ขณะที่ฟากกรรมการผู้จัดการใหญ่ นายเศรษฐา ทวีสิน  หรือ “สูงสุดหล่อ” ก็ออกมาส่งสัญญาณเตรียมแปลง SIRI–W2 ที่ทยอยไล่เก็บไว้ในพอร์ตก่อนหน้านี้ทำให้ถืออยู่มากกว่าที่เคยถือมาก่อนหน้า ถึงประมาณ 400 ล้านหุ้น คิดเป็น 1,000 ล้านบาทด้วยเช่นกัน …ควักกระปุกกันแบบเทหมดหน้าตัก และหากไม่พอก็กู้มาอีกบางส่วน

ความคึกคักจากการสร้างกระแสแปลงสิทธิของ 3 บอสใหญ่ ที่ประกาศล่วงหน้าว่าพร้อมเทเงินลงทุนเพราะมั่นใจในธุรกิจมากสุดๆ ขนาดนี้ (โดยไม่เกรงข้อครหาให้ข่าวสร้างราคาหุ้นล่วงหน้ากันเลย)…ทำให้นอกจากราคาหุ้นจะขยับเข้าใกล้เป้าหมาย 2.50  บาทแล้ว ยังมีคำถามท้าทายว่า  SIRI จะมี “หมัดเด็ด” ขยายธุรกิจน่าตื่นเต้นออกมายังไงอีกในไตรมาส 4

ก็เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าการที่ผู้บริหาร “ออกตัวแรง” เรื่องแปลงวอร์แรนต์ในครั้งนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของ “เกมสร้างความเชื่อมั่น”ธรรมดา ใครจะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ ก็เป็นสิทธิ์…เพราะเงินมันแยะในกระเป๋าแต่ละคน

แล้วเมื่อถึงเวลาแปลงสิทธิ์จริง ผลลัพธ์ก็ออกมาตามคาด…นอกจาก 3 ผู้บริหาร และพนักงานอีกเล็กๆ น้อยๆ เป็นกระสายไม่ให้เหงาเปล่าเปลี่ยวใจแล้ว….และ นักลงทุนรายย่อยอีกจำนวน 43 รายเท่านั้น ที่พร้อมใจเสียสละเพื่อบริษัท

สรุปได้ความว่ามีการใช้สิทธิแปลงสภาพตลอดอายุวอร์แรนต์ทั้งสิ้น 577.23 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1,443.08 ล้านบาท ผู้บริหารของ SIRI แจ้งความจำนงใช้สิทธิแปลงสภาพถึงเกือบ 86% จากจำนวนดังกล่าว โดยหลักมาจาก นายเศรษฐา ทวีสิน, นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ และนายวันจักร์  บุรณศิริ ร่วมด้วยกลุ่มผู้บริหารของ SIRI นอกจากนี้ยังให้ความเชื่อมั่นใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ด้วยเช่นกัน

ห่างจากเป้าหมาย 8,500 ล้านบาทที่ตั้งเอาไว้หลายเท่า ทำให้อนาคตของ SIRI จำต้องฝากเอาไว้กับการก่อหนี้ระยะสั้นเพื่อให้สภาพคล่องมีพอเพียงไม่ฝืดเคืองเกินไปถึงขั้นสะดุด

นักลงทุนที่ถือหุ้น SIRI คงต้องจำทนได้เห็นตัวเลขก่อหนี้ประเภท 1) เงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคาร 2) ตั๋วแลกเงิน 3) ส่วนเงินกู้ระยะยาวที่ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี 4) ตั๋วเงินจ่ายระยะยาวค่าที่ดิน-ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี 5) หุ้นกู้ชนิดไม่มีประกัน-ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี……ในตัวเลขที่สูงลิ่ว ไปเรื่อยๆ

การที่ SIRI ต้องเผชิญกับสภาพ “ว่าวกิน” แม้จะชูจุดขายในเรื่อง ผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่องและแนวโน้มที่ดีในอนาคต โดยเฉพาะในไตรมาส 4/60 ซึ่งคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่มีผลงานดีที่สุด ทั้งในด้านยอดพรีเซล และรายได้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปี รวมถึงบริษัทเชื่อว่าสามารถรักษาระดับกำไรข้างต้นในระดับสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จึงเป็นการ “เกาไม่ถูกที่คัน”…ไม่ได้รับการขานรับเชิงบวกจากนักลงทุนที่ “รัก” บริษัท เหมือนอย่างที่ 3 ผู้บริหารรักจนสุดจิตสุดใจ

กลยุทธ์สร้างความเชื่อมั่นที่ไม่ได้ผลหรือ “ค่าเกาแพงเกิน” อย่างนี้ ทำให้นักวิเคราะห์ที่ไร้ปรานีออกโรงมาเป็นชุด “กระทืบซ้ำ” ตามสูตร ….ด้วยการแนะให้ “ขาย” ทันที โดยเป้าหมายราคาอยู่ที่ 2.00 บาท …โหดซะ ไม่มีฮา

เหตุผลคงไม่มีอะไรมากกว่า….หมั่นไส้ที่เห็นการตั้งราคาแปลงสิทธิ SIRI-W2 มีลักษณะ “กลัดกระดุมผิดเม็ดแรก” นั่นเอง

อิ อิ อิ

Back to top button