MINT ฤดูกาลกอบโกย

หากพูดถึง MINT คงไปในทิศทางสดใส  โดยเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล (ซึ่งช่วงไตรมาส 4 ปี 2560 และไตรมาส 1 ปี 2561 เป็นช่วง High Season ของธุรกิจท่องเที่ยว) และจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมต่างประเทศ คือ ออสเตรเลีย โปรตุเกส และบราซิล


คุณค่าบริษัท

หากพูดถึงธุรกิจของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ช่วงปลายปีแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นไปในทิศทางที่สดใสตามปัจจัยฤดูกาล (ช่วงไตรมาส 4 ปี 2560 และไตรมาส 1 ปี 2561 เป็นช่วง High season ของธุรกิจท่องเที่ยว)

และจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมต่างประเทศ คือ ออสเตรเลีย โปรตุเกส และบราซิล รวมทั้งในประเทศก็คาดว่าจะยิ่งดีขึ้น ธุรกิจอาหารมีแนวโน้มว่าจะทำกำไรได้ดีขึ้นหลังจากปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรในสิงคโปร์ไปแล้วและมีการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

ที่สำคัญ เห็นได้ว่า MINT มีการเติบโตแกร่ง โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14,195.93 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 13,874.41 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,142.89 ล้านบาท หรือ 0.2590 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 989.96 ล้านบาท หรือ 0.2245 บาทต่อหุ้น

แรงผลักดันการเติบโตมาจากปัจจัยต่างๆ คือ อนันตรา วาเคชัน คลับ (AVC) มีผลการดำเนินงานดี ธุรกิจโรงแรมมี RevPar เพิ่มขึ้น โดยโรงแรมในกรุงเทพเพิ่มขึ้น 10% ต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น 5% ส่วน RevPar ของ Tivoli ในบราซิลและโปรตุเกสโตเป็นเลขสองหลักหลังปรับปรุงแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2560 ธุรกิจอาหารมีการขยายสาขา 6% ซึ่งช่วยให้ TSSG (สาขาเดิมและใหม่) เพิ่มขึ้น 3.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ SSSG (สาขาเดิม) ยังลบ 2.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ส่วนผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 42,602.23 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 42,271.04 ล้านบาท แต่บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 3,804.14 ล้านบาท หรือ 0.8622 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 5,296.60 ล้านบาท หรือ 1.2023 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ดี มั่นใจในผลการดำเนินงานของบริษัทตลอดปี 2560 และในปี 2561 โดยโรงแรมในประเทศไทยจะมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว ทั้งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงและต่อไปในอนาคต ส่วนการดำเนินงานในต่างประเทศ ไมเนอร์ โฮเทลส์คาดว่าโรงแรมในประเทศบราซิลจะสามารถรักษาการเติบโตของอัตราการเข้าพักและค่าห้องเฉลี่ยต่อคืนได้อย่างต่อเนื่อง จากการปรับปรุงโรงแรมและสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ดีขึ้น

ส่วนในประเทศโปรตุเกส ไมเนอร์ โฮเทลส์จะยังคงดำเนินการลงทุนปรับปรุงโรงแรมในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวเพื่อสร้างการเติบโตของผลการดำเนินงานอย่างแข็งแกร่งในปี 2561 นอกจากนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์คาดว่าการขายโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขายและอนันตรา เวเคชั่น คลับจะช่วยให้รายได้และกำไรสุทธิของธุรกิจโรงแรมเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในอนาคต

ทางด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำ ”ซื้อ” ราคาพื้นฐานไว้ที่ 50.00 บาท ทั้งนี้เห็นว่าในปี 2561 จะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนและการปรับปรุงโรงแรมในต่างประเทศไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผลประกอบการจะมีการเติบโตที่ดีขึ้น คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2561 เติบโต 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ไมเนอร์ โฮลดิ้ง (ไทย) จำกัด 727,767,680 หุ้น 16.50%
  2. UBS AG SINGAPORE BRANCH 652,324,953 หุ้น 14.79%
  3. นายนิติ โอสถานุเคราะห์ 346,595,097 หุ้น 7.86%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 305,555,705 หุ้น 6.93%
  5. CREDIT SUISSE AG, SINGAPORE BRANCH 200,294,970 หุ้น 4.54%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ
  2. นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
  3. นายพอล ชาลีส์ เคนนี่ กรรมการ
  4. นายเอ็มมานูเอล จู๊ด ดิลิปรัจ ราชากาเรีย กรรมการ
  5. นายอานิล ธาดานี่ กรรมการ

Back to top button