ทรัมป์ กับ โกหกสีขาว

ไม่กี่ชั่วโมงเมื่อวันศุกร์ หลังจากข่าวดีจากวุฒิสภาผ่านมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49 แบบมีเงื่อนไข (เพราะยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับลดภาษีบุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล) โดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันทุกคนยกเว้นบ็อบ คอร์กเกอร์ ลงคะแนนเสียงรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ ข่าวรายต่อเก้าอี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เกิดขึ้นตามมา


พลวัตปี 2017 : วิษณุ โชลิตกุล

ไม่กี่ชั่วโมงเมื่อวันศุกร์ หลังจากข่าวดีจากวุฒิสภาผ่านมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49 แบบมีเงื่อนไข (เพราะยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับลดภาษีบุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล) โดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันทุกคนยกเว้นบ็อบ คอร์กเกอร์ ลงคะแนนเสียงรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ ข่าวรายต่อเก้าอี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เกิดขึ้นตามมา

 นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมายอมรับว่าตนได้ให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เกี่ยวกับการสนทนาร่วมกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเท่ากับยอมรับโดยปริยายว่า นายทรัมป์มีส่วนร่วม “ขัดขวางกระบวนยุติธรรม” ด้วย

ข่าวดังกล่าว แม้ประธานาธิบดีจะยังคงออกมา “ปากกล้า ขาสั่น” ต่อไปว่า ไม่ได้ทำผิดกฎหมายข้อไหน แต่ก็ส่งอิทธิพลเชิงลบทันทีต่อค่าเงินดอลลาร์และดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์ก

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ การซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก และดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.20% สู่ระดับ 92.864

นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อัยการพิเศษที่ทำหน้าที่สืบสวนความเกี่ยวพันระหว่างรัสเซียและคณะหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ออกแถลงการณ์ว่า นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ให้การเท็จต่อ FBI เกี่ยวกับการสนทนาของเขากับนายเซอร์เกย์ คิซยัค เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐ ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีที่แล้ว

ด้านฟลินน์ระบุในแถลงการณ์ว่า “การรับสารภาพของผมและการตกลงให้ความร่วมมือกับคณะสืบสวนความเกี่ยวพันระหว่างรัสเซียและคณะหาเสียงของทรัมป์ สะท้อนให้เห็นการตัดสินใจของผมเพื่อรักษาผลประโยชน์ของครอบครัวของผมและประเทศของเรา และผมจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป”

คำสารภาพของนายฟลินน์ เป็นสิ่งที่คนอเมริกันยากจะรับได้เกี่ยวกับความชอบธรรมของทรัมป์ เพราะพื้นฐานคนอเมริกันนั้น “การโกหกที่ถูกจับได้” จะต้องถูกลงโทษให้สาสม แต่การโกหกที่ไม่ถูกจับได้ หรือคลุมเครือ ถือว่าคนที่กระทำเก่งจริง

มาถึงขั้นนี้ ตลาดวอลล์สตรีท เริ่มตระหนักกันชัดเจนแล้วว่า ชะตากรรมทางการเมืองของทรัมป์กำลังเริ่มต้นนับถอยหลังไปสู่จุดจบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ รวมถึงสำนักงานข่าวกรองกลาง และสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติได้ลงความเห็นแล้วว่ารัสเซียพยายามเพิ่มโอกาสให้นายทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีที่ผ่านมา

อัยการพิเศษ นายมุลเลอร์ ได้รับการแต่งตั้ง จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อเดือนพฤษภาคม และนอกจากการสอบสวนของเขายังมีอีกหลายคณะกรรมาธิการในรัฐสภาสหรัฐฯที่กำลังไต่สวนเรื่องเดียวกันด้วย

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จนถึงล่าสุด จำเลยตัวจริงอย่าง ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังแสดงความคิดเห็นอย่างเผ็ดร้อนด้วยการต่อว่าทุกความเห็น ที่อ้างว่าทีมของเขาสมรู้ร่วมคิดกับรัฐบาลรัสเซียเพื่อเอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน และพยายามบอกปัดไปว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นพล็อตที่เขียนล่วงหน้า ซึ่งถูกแต่งขึ้นโดยจินตนาการ และส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศ

การสอบสวนของนายโรเบิร์ต มุลเลอร์ กลายเป็นความกังวลของพลพรรครัฐบาลทรัมป์ มาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องคอขาดบาดตาย ว่าด้วยการพบปะกัน ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ และชาวรัสเซีย

คำสารภาพของนายฟลินน์ คือการเปิดทางเพื่อส่งสัญญาณว่า นายมุลเลอร์ มีโอกาสสูงที่จะขยายขอบเขตการสอบสวนไปถึงกรณีที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจกว้างกว่ากรณีของนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และกรณีการล็อบบี้ต้องสงสัยด้วย

นอกจากนี้ก็ยังเป็นเครื่องบ่ง ชี้เพิ่มเติมว่า การสอบสวนจะยังไม่ยุติลงในเวลาอันใกล้ ส่วนจะนำไปสู่บทสรุปว่าถึงขั้นทรัมป์จะถูกถอดถอนหรือไม่ ยังเร็วเกินไป

วันเวลาของการโกหกสีขาว โดยอ้างถึงเจตนาอันสูงส่งเรื่องทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ของ โดนัลด์ ทรัมป์ จะตามมาด้วยเรื่องราวที่เลวร้ายแค่ไหน ต้องติดตามหากถือ ตามหลัก “คนโกหกไม่ทำชั่ว ไม่มี”

Back to top button