สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ธ.ค. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) โดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงเกือบ 3% นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงที่ฉิวเฉียดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,140.91 จุด ลดลง 39.73 จุด หรือ -0.16% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,629.27 จุด ลดลง 0.30 จุด หรือ -0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,776.38 จุด เพิ่มขึ้น 14.16 จุด หรือ +0.21%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง สเตนฮอฟฟ์ อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้งส์ และซากา พีแอลซี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.1% ปิดที่ 386.32 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,998.85 จุด ลดลง 49.69 จุด หรือ -0.38% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,374.35 จุด ลดลง 1.18 จุด หรือ -0.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,348.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.53 จุด หรือ +0.28%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) ด้วยอานิสงส์จากสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร สืบเนื่องจากการเจรจา Brexit ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรป (EU) ยังไร้สัญญาณความคืบหน้าที่สำคัญ

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 20.53 จุด หรือ +0.28% ปิดที่ 7,348.03 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลงก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 55.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.64 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 61.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศรับรองให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเปิดเผยแผนการย้ายสถานทูตสหรัฐ จากกรุงเทลอาวีฟ ไปยังกรุงเยรูซาเลม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,266.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 11.3 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 15.955 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 14.70 ดอลลาร์ หรือ 1.60% ปิดที่ 902.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 9.8 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 986.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐซึ่งขยายตัวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1794 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1815 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3376 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3437 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7562 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7608 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.26 เยน จากระดับ 112.59 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9902 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9883 ฟรังก์สวิส

Back to top button