สังคมข่าวหุ้น

นักลงทุนต่างประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย หากนับจากต้นปีก็กว่า 2.25 หมื่นล้านบาท สวนทางกับกองทุนที่ซื้อสุทธิ 7.80 หมื่นล้านบาท แต่ที่น่าสนใจคือนักลงทุนรายย่อย ขายหุ้นไทยปีนี้ไปแล้ว 6.73. หมื่นล้านบาท มากกว่านักลงทุนทุกกลุ่ม ที่เห็นหุ้นลงๆ จึงไม่ต้องไปโทษแต่ต่างชาติ หรือฟันด์โฟลว์


คาเฟอีน

* นักลงทุนต่างประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย หากนับจากต้นปีก็กว่า 2.25 หมื่นล้านบาท สวนทางกับกองทุนที่ซื้อสุทธิ 7.80 หมื่นล้านบาท แต่ที่น่าสนใจคือนักลงทุนรายย่อย ขายหุ้นไทยปีนี้ไปแล้ว 6.73. หมื่นล้านบาท มากกว่านักลงทุนทุกกลุ่ม ที่เห็นหุ้นลงๆ จึงไม่ต้องไปโทษแต่ต่างชาติ หรือฟันด์โฟลว์

* หุ้นน้องใหม่ ร.พ.ธนบุรี หรือ THG ของน.พ.บุญ วนาสิน ไอพีโอหุ้นละ 38 บาท แต่พี/อี ณ ราคาไอพีโอสูงถึง 61 เท่า ทำให้ราคาเปิดตลาดอยู่ที่  36.75 บาท ต่ำกว่าจองไปเล็กน้อย แต่ทางที่ปรึกษาทางการเงินอย่างแบงก์ไทยพาณิชย์บอกว่า อนาคต THG ผลประกอบการจะออกมาดี พี/อี จะปรับลงมาได้ ใครซื้อ THG ก็เหมือนซื้ออนาคต ฟังเขาพูดมาแบบนี้เหมือนไม่เข้าใจนักลงทุนไทย และตลาดหุ้นไทยซักเท่าไหร่ ซึ่งก็มีตัวอย่างมาให้เห็นเยอะแล้วกับหุ้นที่กำหนดราคาไอพีโอแบบเต็มมูลค่า Full value นักลงทุนเซ็ง

* ส่วนวันนี้หุ้น บมจ.ฮิวแมนิก้า (HUMAN) จะเข้าซื้อข่ายในตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นวันแรก ที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ชื่อนี้การันตีได้ หุ้น ณ ราคาไอพีโอ มีอัพไซด์ให้เล่น ขณะที่พื้นฐานของหุ้นถือว่าสุดเจ๋งอยู่แล้ว ในธุรกิจนี้ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 65% และยิ่งนับวันยิ่งเติบโต เพราะผู้ประกอบการพยายามหันมาใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ในการบริหารงานบุคคล และระบบบัญชีมากขึ้น ราคาไอพีโอ 4.00 บาท พี/อี เพียง 22-23 เท่า และหนี้สินต่อทุน  หรือ D/E อยู่แค่ 0.39 เท่า หนี้สินน้อยมาก และกำไรเติบโตระดับสูงทุกปี ล่าสุดแจ้งกำไรไตรมาส 3/60 กำไรสุทธิ 18.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.60% เป๋าตุงเพิ่มทันที

*แบงก์ทีเอ็มบี หรือ TMB ราคาหุ้นพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา 3.00 บาท หากผ่าน และยืนเหนือราคานี้ได้ ราคาดังกล่าวก็จะเป็นแนวรับทันที ขณะที่พื้นฐานทั่วไปของธนาคารไม่มีอะไรน่าห่วง “บุญทักษ์ หวังเจริญ” ซีอีโอคนปัจจุบัน วางไว้ให้แล้วอย่างดี ส่วนคนใหม่ “ปิติ ตัณเกษม”  ก็ไม่ใช่มือแบงก์โนเนมอะไร เขาเป็นมือขวาของบุญทักษ์ ร่วมงานกันมาตั้งแต่กสิกรไทย จึงไว้ใจได้ และที่สำคัญผ่านการคัดเลือกและเห็นด้วยทั้งจากกระทรวงการคลัง กลุ่มไอเอ็นจี และ แบงก์ชาติเรียบร้อยแล้ว พูดง่ายๆ ผ่านการสกรีนมาแล้วอย่างดี

บมจ.ริช สปอร์ต หรือ RSP ที่ผลิตรองเท้าให้คอนเวิร์ส ราคาหุ้นหลังจากเข้าซื้อขายในตลาด ผ่านมาถึงวันนี้ร่วงหลุดจอง 5.80 บาทเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่พื้นฐานโดยทั่วไปก็โอเคอยู่นะ ส่วนนักลงทุนรายใหญ่ที่รายล้อม “ป๋าเทพ” และได้รับจัดสรรหุ้นไอพีโอด้วยนั้น เข้าใจว่าคงทิ้งออกมาหมดแล้วมั้ง เพราะไม่เช่นนั้น จะไม่ปล่อยให้ราคาหุ้นรูดแบบนี้  หรือหากมองแบบโลกสวยหน่อยๆ ช่วงนี้มีหุ้นไอพีโอเข้าเยอะ นักลงทุนเลยต้องขายหุ้นออกจากพอร์ต เพื่อไปเล่นตัวใหม่ๆ กัน

* หุ้น TITLE หรือ บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้  แม้ราคาหุ้นจะสวิงๆ หน่อย แต่สัญญาณทางเทคนิคสวย ราคาหุ้นเริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังจากหลุดลงไปที่ระดับ 3.10 บาท ล่าสุดผู้บริหาร TITLE กำลังศึกษาพัฒนาโครงการในภูเก็ต 2 ทำเลใหม่ อาจลุยทำเอง หรือจับมือพันธมิตรร่วมลงทุน ส่วนโบรกฯให้ มูลค่าที่เหมาะสมของ TITLE ที่ 4.20 บาท โดยใช้ PER ที่ 13-14 เท่าสำหรับปี 2018

*หุ้น PACE หรือ บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ประสบความสำเร็จแล้ว เมื่อราคาเลี้ยวโค้ง แล้วม้วนกลับ “ลงมาหาราคาเป้าหมาย” ได้แล้วนั่นคือ 0.50 บาท เป็นราคาเดียวกับที่เขาขายหุ้นเพิ่มทุนให้กันไง แต่ราคาก็ไม่น่าจะร่วงหล่นไปมากกว่านี้แล้วล่ะ (มั้ง) ไม่งั้นคนที่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนก็จะขาดทุนทันที แล้วแบบนี้จะซื้อไปทำเบื๊อกอะไรล่ะ จริงไหม

* มาร์เก็ตแชร์ข้าใครอย่าแตะ!!! เฮียมนตรี ศรไพศาล แห่ง บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประกาศลั่นทุ่ง แชร์ยังอยู่อันดับ 1 ด้วยตัวเลข 8-9% ส่วนงานไอพีโอยังมีอยู่ในมือเยอะ 24-25 ดีล และจะส่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯปี 61 ราวๆ 6-7 บริษัท ก็น่าจะช่วยสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้ ยังไม่รวมสินค้าด้านการเงินอื่นๆ เช่น DW ที่กำลังมาแรง ค่อยๆ แซงทางโค้งอีก

* สุดท้ายเป็นเรื่องหุ้น GULF : บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่มีไอ้โม่งไป “ปล่อยข่าว” ว่า กัลฟ์ฯ มีปัญหากับภาครัฐเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ 5000 เมกะวัตต์ แต่เรื่องนี้ได้รับการยืนยันว่า กัลฟ์ฯ ได้ฟ้องไปยัง “ศาลปกครองกลาง” และเป็นฝ่าย “ชนะ” ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ทางกระทรวงพลังงานยื่นเรื่องต่อศาลปกครองสูงสุด และนี่เป็นข้อมูลที่นักลงทุนสถาบันต่างรับทราบกันดีอยู่แล้ว

Back to top button