PTT เล็งลงทุนด้านโรงกลั่น-ปิโตรเคมีเพิ่มทั้งใน-ตปท. หนุนธุรกิจเติบโตยั่งยืน

PTT เล็งลงทุนเพิ่มในธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีทั้งในและต่างประเทศ หวังช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจ พร้อมประกาศตรึงราคาน้ำมันช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นของขวัญให้แก่ประชาชน


นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน หรือ PTT เปิดเผยว่า บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ในธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีทั้งในและต่างประเทศ เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจ หลังจากในช่วงที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจดังกล่าวได้ดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพ ทั้งการเพิ่มผลผลิตที่มีมูลค่าสูง และการลดต้นทุนการผลิต ทำให้ภาพรวมสามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพได้ราว 1 หมื่นล้านบาท/ปี ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการ MAX ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และโครงการ EVEREST ของ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เป็นต้น

“ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีมีการปรับตัวอยู่แล้วที่จะไปลงทุน speciality มากขึ้น ปรับตัวเพื่อรองรับ feedstock ที่อาจจะเปลี่ยนไป แต่ยังไม่ได้มีการลงทุนเป็น complex เป็นการปรับตัวเรื่องประสิทธิภาพ productivity ที่เพิ่มขึ้น แต่ละโรงงานมีโปรแกรมที่จะเพิ่ม productivity เพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และแสวงหาต่อยอด speciality มากขึ้น.ตอนนี้เรา explore ไปเรื่อยๆ ทั้งในส่วนของโรงกลั่นและปิโตรฯทั้งในและต่างประเทศ เพราะธุรกิจหยุดนิ่งไม่ได้” นายอรรถพล กล่าว

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกลุ่ม ปตท. ซึ่งรวมถึงธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย อยู่ระหว่างจัดทำแผนธุรกิจ 5 ปี (ปี 61-65) ซึ่งเตรียมจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการปตท.ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจยังอยู่ภายใต้ PTT3D ประกอบด้วย

1.DO NOW ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีก็ได้ดำเนินการอยู่แล้ว, 2.DECIDE NOW ซึ่งเป็นการมองหาโอกาสขยายการเติบโตและต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ เช่น ทั้งในกลุ่มโรงกลั่น และ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ที่มองหาการลงทุนที่ต่อยอดจากพื้นฐานการลงทุนที่มีอยู่

และ 3. DESIGN NOW เป็นการเร่งสร้างธุรกิจใหม่ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นระยะยาว เช่น ธุรกิจไฟฟ้าที่จะต่อยอดไปยังธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ,แบตเตอรี่ เป็นต้น

ทั้งนี้ ในส่วนของสถานีบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) นั้น ปตท.ได้ทดลองติดตั้งแล้วราว 15 แห่ง จากเป้าหมายทั้งหมด 20 แห่ง และกำลังศึกษารูปแบบการทำเป็นเชิงธุรกิจ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในต้นปีหน้า พร้อมกับมองหาพันธมิตรเข้าร่วมลงทุนด้วย โดยการลงทุนยังต้องรอดูปริมาณรถที่จะเข้ามาใช้บริการ จากปัจจุบันที่ยังมีปริมาณรถเข้ามาใช้บริการไม่มากนัก และส่วนใหญ่เป็นรถทดสอบของในกลุ่มปตท.เป็นหลัก

ขณะเดียวกัน ปตท.เตรียมประกาศตรึงราคาน้ำมันในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชนในช่วงเดินทางเทศกาลปีใหม่เป็นประจำทุกปี แต่หากต้นทุนน้ำมันลดลงก็พร้อมจะลดราคาน้ำมันในช่วงนั้นลงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังเตรียมจัดของสมมนาคุณให้กับลูกค้าที่เข้ามาเติมน้ำมันในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

สำหรับร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกของ ปตท.นั้น นับว่ายังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายราว 1 หมื่นล้านบาท/ปี และในปีนี้คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นเป็น 180 ล้านแก้ว จากปีที่แล้วที่ทำได้ราว 150 ล้านก้าว แต่กำไรส่วนนี้ไม่ได้อยู่ที่ปตท.โดยตรง เพราะร้านส่วนใหญ่เป็นลักษณะแฟรนไชส์ ของกลุ่มเอสเอ็มอีต่างๆ ขณะที่ปตท.ได้รับเพียงค่าแฟรนไชส์ราว 6% ของยอดขายเท่านั้น

Back to top button