ลุยแล้วถอย

*บรรยากาศการลงทุนช่วงนี้อาจไม่มีอะไรหวือหวา จนก๊วนนักเล่นได้เสียกันมหาศาลไปข้างหนึ่งก็จริง แต่อย่างน้อยก็ทำให้นักเล่นมีโอกาสเล่นรอบต่อไปเรื่อยๆ เพราะอารมณ์ของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ หมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดเวลา ส่งผลให้การซื้อขายหุ้นหน้าเดิมๆ เกิดขึ้นให้เห็นเยอะแยะไปหมด ภาพของการลงทุนถึงเอาแน่เอานอนไม่ได้เลยในแต่ละวันไงล่ะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*บรรยากาศการลงทุนช่วงนี้อาจไม่มีอะไรหวือหวา จนก๊วนนักเล่นได้เสียกันมหาศาลไปข้างหนึ่งก็จริง แต่อย่างน้อยก็ทำให้นักเล่นมีโอกาสเล่นรอบต่อไปเรื่อยๆ เพราะอารมณ์ของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ หมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดเวลา ส่งผลให้การซื้อขายหุ้นหน้าเดิมๆ เกิดขึ้นให้เห็นเยอะแยะไปหมด ภาพของการลงทุนถึงเอาแน่เอานอนไม่ได้เลยในแต่ละวันไงล่ะค่ะ

*ที่น่าสนใจคือ เมื่อมองไปมองมากลายเป็นว่าดัชนีขึ้นมายืนที่ 1,706.93 จุด บวกไปอีก 4.76 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.37 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำท่าจะหลุดแนวรับ 1,700 จุด แต่วันนี้กลับมีท่าทีแข็งกร้าวอย่างผิดหูผิด และกำลังแสดงอาการให้ทุกคนเห็นว่า พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,710 จุด “โมนิก้า” ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่บอกให้นักเล่นได้รู้คร่าวๆ อย่างเป็นทางการว่า ความผันผวนยังมีอยู่ต่อไปนะคะ

*วันนี้ “โมนิก้า” ถึงกล้าเม้าท์ถึงหุ้นตัวต่างๆ อย่างไม่เหนียมอาย เพราะของเขาดีอยู่แล้ว จึงต้องพูดถึงกันบ่อยๆ ซึ่งเหมือนกับในรายของ GULF มีดีตรงที่รายได้และกำไรโตขึ้นทุกปี แต่ราคาหุ้นกลับซึมกระทืออย่างไม่น่าเชื่อ ล่าสุดเห็นหุ้นยืนอยู่ที่ 54 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่า 1.19 พันล้านบาท มองในมุมไหนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า คนที่มีเงินเย็นเข้าลงทุนได้สบายๆ วันนี้ถึงมีคำแนะนำให้ “ซื้อ” ออกมาไม่หยุดหย่อนไงล่ะค่ะ

*ส่วนในรายของ ADVANC ถือเป็นหุ้นที่เริ่มเข้าสู่โซนเหลือง และในไม่ช้าคงเข้าสู่โซนแดง หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 186 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่า 2.35 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะคาบลูกคาบดอกที่นักเล่นต้องเริ่มคิดว่ายังจะกล้าเล่นต่อไหม?  หลังหุ้นเปิดแท่งเทียนเขียวยาวปี๊ด วันนี้ถึงต้องถามใจกันอีกสักที ได้เวลาขายหรือยัง?

*เหมือนกับในรายของ ESSO  มีคนแอบมากระซิบกระซาบ “โมนิก้า” อย่างขึงขังว่า โกรทจะเอามาจากที่ไหน? กำไรจะแจ่มแจ๋วขนาดไหน? เดี๊ยนเลยตอบกลับไปว่า ไม่ใช่ธุระที่เดี๊ยนต้องมานั่งคิดแทนนักลงทุน เพราะสิ่งที่เล่นในเที่ยวนี้มันมาจากเรื่องโฆษณาชวนเชื่อมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริง วันนี้ถึงต้องมองกันด้วยใจเป็นกลางว่าราคาปิดที่ 16.60 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่า 550 ล้านบาท ใช่จังหวะที่ต้องตามน้ำอีกไหมเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ PCSGH เป็นอีกหนึ่งตัวที่แรงแบบไม่ทันตั้งตัว จากเดิมโดนถล่มจนทำท่าจะไปไม่รอดอยู่แล้วเชียว จู่ๆ มีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาดันหุ้นขึ้นมาช้าๆ จนวานนี้วิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.25 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 1.65% ด้วยมูลค่า 222 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นภาพที่ทำให้เดี๊ยนมองยอดใหม่ที่บริเวณ 10 บาทลอยมาปรากฏให้เห็นอีกครั้ง จึงขอเสนอให้ผู้เล่นลองชำเลืองตามองไว้บ้างเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ WHA หากประเมินตามสเต็ปที่ “โมนิก้า” พยายามทำตัวสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.70 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.78% ด้วยมูลค่า  274 ล้านบาท เพราะในความเป็นจริงก็เป็นที่รับทราบกันอย่างถ่องแท้ว่า หุ้นมาด้วยเกมธุรกิจมาสักระยะหนึ่งแล้ว!  จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากหุ้นจะไต่ระดับขึ้นอีกครั้ง..ตัวเองรู้ไหมจ๊ะ

*เฉกเช่นเดียวกับ AMANAH  หลังจากโดนถล่มจนร่วงลงมาจากระดับ 1.80 บาท จนลงลงมาปักหลักสร้างฐานที่บริเวณ 1.30 บาท ในที่สุดก็ได้จังหวะทะยานขึ้นอย่างเป็นทางการเสียที และดูเหมือนว่ารอบนี้จะพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.46               บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 8.15% ด้วยมูลค่า 80 ล้านบาท หลังได้รับแรงหนุนเรื่องผลประกอบการโตกระโดด  “โมนิก้า” เลยขอทำตัวตามกระแสมองเป้าแรก 1.60 บาทก็พอมั่ง!

*ถ้าเม้าท์ถึงเรื่อง “พิศวง งง งวย” ในเวลานี้ “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปที่หุ้นเคยท็อปฟอร์มอย่างเช่น ACAP วันนี้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น? “โมนิก้า” ขอตอบแบบเต็มปากคือ  ธุรกิจไม่ใช่อย่างที่คิด! เพราะสิ่งที่รู้คือ  ขายที่ดินเพื่อบันทึกกำไรพิเศษ ผู้คนทั่วไปเลยมองกันว่า ธุรกิจถึงจุดถดถอย วานนี้หุ้นถึงวิ่งลงมาปิดที่ 12.80 บาท ลบไป 1.50  บาท หรือลงไป 10.50% ด้วยมูลค่า 74  ล้านบาทแบบนี้..ตัวใครตัวมันดีกว่านะนายจ๋า!

*ที่แปลกยิ่งกว่านั้นก็คือหุ้น SSP  กลายเป็นหุ้นที่ถูกกระทำชำเราอย่างหนักหน่วง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคนช่วยประคองหุ้นไว้ตลอดเวลา แต่ทันทีที่ปล่อยให้หุ้นร่วงไปตามยถากรรม โพสิชั่นของหุ้นก็ดูแย่ลงไปในทันทีแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นภาพที่ต้องถอยไปรับที่ราคาต่ำกันก่อน เพราะราคาปิดที่ 8.30 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 34 ล้านบาท คงไม่ใช่ราคาต่ำสุดของเที่ยวนี้จ้า!

Back to top button