พักฐาน

* สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นอะไรที่ไม่ยากเกินกว่าคาดเดา และไม่ง่ายที่จะฟันธงว่าจะเป็นแบบนั้น..จะเป็นแบบนี้ ซึ่งทำให้นักอ่านค่าสัญญาณเทคนิคนอนตีพุงยิ้มแฉ่งกันอย่างถ้วนหน้า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของการจับจังหวะมากกว่ามองปัจจัยพื้นฐาน ส่งผลให้คนที่สามารถ Mix & Match ทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน สบายใจเฉิบอย่าบอกใครเชียวแหละ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นอะไรที่ไม่ยากเกินกว่าคาดเดา และไม่ง่ายที่จะฟันธงว่าจะเป็นแบบนั้น..จะเป็นแบบนี้ ซึ่งทำให้นักอ่านค่าสัญญาณเทคนิคนอนตีพุงยิ้มแฉ่งกันอย่างถ้วนหน้า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของการจับจังหวะมากกว่ามองปัจจัยพื้นฐาน ส่งผลให้คนที่สามารถ Mix & Match ทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน สบายใจเฉิบอย่าบอกใครเชียวแหละ

* เมื่อรูปการณ์ออกมาในโทนนี้เป็นส่วนใหญ่ “โมนิก้า” ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเท้าความกลับไปที่เรื่องเดิมให้เสียเวลาเคาะขวาแบบรัวๆ เพราะเป็นเรื่องที่พูดมาเยอะพอสมควรแล้ว จึงอยากให้มองไปข้างหน้าว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมีอะไรเป็นประเด็นที่ต้องติดตามเป็นพิเศษหรือเปล่า? ผลปรากฏว่ายังไม่มีเรื่องไหนต้องวิตกกังวล หรือต้องดีใจจนออกมานอกหน้านะคะ

* เนื่องจากตลาดหุ้นไทยกำลังอยู่ในช่วงของการเซ็ตตัวรอบใหม่ และจังหวะนี้ก็อยู่ในช่วงของการพักฐานอย่างเป็นทางการ หลังดัชนีวิ่งเข้ามาอยู่ในโซนเหลืองสักพัก ขืนเดินหน้าต่อไปก็มีแต่สร้างความอึดอัดมากขึ้นกว่าเดิม “โมนิก้า” ถึงเห็นควรที่ดัชนีย่อตัวลงมาเล็กน้อย ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,736.91 จุด ลบไป 1.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.61 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างไม่โอเวอร์นะซี

* เหมือนกับในรายของ KTB พยายามเทกตัวผ่านแนวต้าน 19.50 บาทมาพักใหญ่ๆ สุดท้ายทำไม่สำเร็จดั่งใจหวัง จึงอ่อนตัวลงมาปิดที่ 19.10 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 1.19 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ต้องเซ็ตกันใหม่อีกรอบ หลังสัญญาณแท่งเทียนโค้งตัวลงอย่างช้าๆ จึงเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องมองแนวรับถัดมาที่บริเวณ 18.80 บาทเอาอยู่หรือเปล่า?

* อีกหนึ่งตัวที่น่าจับตามองเหลือเกิน “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่น้องมิ้นต์ MINT ขยับตัวไปมาในรูปแบบ W-Shape ในกรอบราคา 42-45 บาทเป็นเวลา 2 เดือน มันทำให้เดี๊ยนมีความมั่นใจขึ้นมาในทันทีว่า น่าตามไปดูจริงๆ ยิ่งเห็นหุ้นอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 43.25 บาท ลบไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่า 600 ล้านบาท ยิ่งเป็นจังหวะของการหยอดสั้นๆ เพื่อหาค่าขนมไปเที่ยวปีใหม่นะคะ

* ส่วนหุ้นที่ “โมนิก้า” รู้สึกกังวลมากเหลือเกินคงเป็นในรายของ DTAC ขยับขึ้นมาปิดที่ 44.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 438 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้โดนสาดทิ้งแบบไม่มีเยื้อใย จู่ๆ เด้งขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผลที่ดีรองรับแบบนี้ มองได้เพียงประเด็นเดียวว่า รีบาวด์ จึงต้องติดตามดูสถานการณ์ของหุ้นเป็นระยะ เพราะของแบบนี้ดูด้วยตาเปล่าอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ

* ช็อตที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งคือ EPG ราคาหุ้นไหลลงหลังผลงานไม่ประทับใจจอร์จ ก่อนจะแกว่งตัวไปมาที่บริเวณ 10.90-11.50 บาทเป็นเวลา 2 เดือนนิดๆ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่าหุ้นกำลังเลือกทางเดินระหว่าง “เด้งขึ้น” กับ “เด้งลง” แต่เมื่อเหลือบดูค่า P/E 27 เท่า “โมนิก้า” กลับมีอาการแหยงขึ้นมาในทันที และมองการอ่อนตัวลงมายืนที่ 11.60 บาท ลบไปเล็กน้อยแค่ 0.10 บาท เขาเรียกอาการแบบนี้ว่า เริ่มเฉา นะจะบอกให้

* อีกหนึ่งตัวที่อยู่ในทิศทางคาบลูกคาบดอกต้องมองไปที่ THCOM พยายามเด้งกลับขึ้นมายืนราคาสูง สุดท้ายทำได้แค่ขึ้นมายืนปิดที่ 12.60 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่าซื้อขายที่เบาบางอย่างไม่น่าเชื่อนั้น “โมนิก้า” มองเป็นแค่ช็อตของการประวิงเวลาไปวันๆ ไม่มีนัยสำคัญมากมายเท่ากับแรงซื้ออัดเข้ามาต่อเนื่องหรือเปล่า? หากไม่เป็นเหมือนกับที่เดี๊ยนมองไว้ก็อย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงดีกว่าค่ะ

* ส่วนในรายของ TRUE เริ่มขยับขึ้นอีกเที่ยว พร้อมด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น ก่อนจะมาปิดที่ 6.20 บาท บวกไป 0.05 บาท ท่ามกลางมูลค่าซื้อขาย 620 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะดูตามรูปการณ์น่าจะเป็นการเริ่มออกสตาร์ท ทำให้เชื่อว่าหุ้นน่าจะไต่ระดับขึ้นไปได้เรื่อยๆ ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหน?  คงขึ้นอยู่กับนักเล่นกลุ่มสถาบันอยากเก็บหุ้นเยอะไหม? จึงต้องตามดูอยู่ห่างๆ นะตัวเอง

* สำหรับรายที่น่ากังวลเหลือเกินคงเป็นในรายของ LOXLEY โดนสาดออกมาไม่หยุดหย่อนตลอดทั้งวัน จนหุ้นลงกองอยู่ที่ 2.40 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 7.70% ด้วยมูลค่า 87 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของความหวาดกลัวว่า งบไตรมาส 4 น่าจะมีแอ็คซิเดนต์อะไรบางอย่าง ซึ่งจะฉุดให้งบทั้งปีออกมาแย่กว่าปีก่อน ทุกคนเลยหนีตายกันหมดไงล่ะค่ะ

* ลุยกันแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับไปดู SPVI ถูกเสริมสร้างเติมแต่งด้วยสตอรี่กำไรโต บวกกับมีข่าวเกี่ยวกับยอดขายไอโฟนดีขึ้นต่อเนื่อง บรรดาเจ้าภาพหลักที่สนับสนุนอย่างเป็นทางการถึงช่วยกันจุดพลุเล่นกันอีกรอบ หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.76 บาท บวกไป 0.17 บาท หรือขึ้นไป 10.70% ด้วยมูลค่า 103 ล้านบาท ส่วนจะไปถึงเนินแรกที่บริเวณ 2 บาทต่อจากนั้นขยับไปหายอดเดิม 2.20 บาทได้หรือเปล่า? ต้องดูวันต่อวันเจ้าค่ะ

Back to top button