ชง 14 บจ.ดาวรุ่ง กำไรเด่น-อัพไซด์สูงSET ผันผวนต่อระหว่างรอปัจจัยใหม่

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังผันผวนภายใต้ภาวะที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ขณะที่ตัวเลขจีดีพีไทยไตรมาสแรกที่เติบโตเพียง 3% ยังกดดันตลาด การเน้นหุ้นรายตัวที่มีผลกำไรโดดเด่น และราคาหุ้นยังมีอัพไซด์สูง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.34 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐก่อให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะเลื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังผันผวนภายใต้ภาวะที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ขณะที่ตัวเลขจีดีพีไทยไตรมาสแรกที่เติบโตเพียง 3% ยังกดดันตลาด การลงทุนเน้นหุ้นรายตัวที่มีผลกำไรโดดเด่น และราคาหุ้นยังมีอัพไซด์สูง หุ้นเด่นเลือก INTUCH-RCL-VNG-PTT-PTTEP-TOP-PTTGC-ADVANC-CSS-CENTEL-BDM-HANA-SPTTGC และ TLUXE

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ค.) ว่า แม้ตัวเลข GDP ไทยไตรมาส 1/15 เติบโตเพียง 3.0% จากปีก่อนและส่งผลให้สภาพัฒน์ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือ 3.0-4.0% (เดิม 3.5-4.5%) แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดจะเห็นว่าเริ่มมีการเร่งตัวของการลงทุนภาครัฐฯ เพิ่มขึ้น และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีการเติบโตสูง ประกอบกับดอกเบี้ยต่ำ และสถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพจะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า

ค่าเงินบาทที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้การ “ปรับพอร์ต” ของนักลงทุนต่างชาติ และ Downside Risk ของ SET จำกัด แนะนำ “ซื้อ” INTUCH ที่กำไรกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2015-16 ที่ 12-30% หลังจากทรงตัวในปี 2014 นอกจากนี้ INTUCH ยังเป็นผู้ที่ได้รับผลดีมากที่สุดจากการประมูล 4G ในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้า และรอรับปันผลกลางปีประมาณ 3% (ทั้งปี 2015 ประมาณ 6%)

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ค.) ว่า หลังรายงานงบไตรมาส 1/58 ต่ำกว่าคาด ในเบื้องต้นคาดว่ามีการปรับลดประมาณการปีนี้ลงราว 5% และเชื่อว่ายังมีความเสี่ยงจะปรับลดได้อีก กลยุทธ์ยังเน้นหุ้นรายตัวที่มีผลกำไรโดดเด่น และราคาหุ้นยังมี upside สูง เลือก RCL (FV@B 14.70) และ VNG ([email protected]) เป็น Top Picks

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ค.) ว่า ทิศทางตลาดยังผันผวนภายใต้ภาวะที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดว่าจะยังได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าเฟดอาจยังไม่พิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนมิ.ย.นี้ และล่าสุดคาดการณ์ว่าจะอยู่ในช่วงต้นปี59

ขณะที่ยังมีความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์กรีซ โดยเฉพาะปัญหาสภาพคล่อง กรณีเลวร้ายสุดอาจส่งผลกระทบต่อกรีซและอาจลุกลามไปยังประเทศต่างๆ ใน EU หากไม่สามารถเจรจาข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ โดยกรีซมีหนี้ที่ครบกาหนดชำระต่อ IMF ในเดือนมิ.ย. รวมแล้วอีกประมาณ 929 ล้านยูโร ทำให้คาดยังเป็นปัจจัยที่กดดันภาพรวมตลาดต่อเนื่อง

ด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยลบบ้างจากตัวเลข GDP ไตรมาสแรกแต่อยู่ในความคาดหมายของตลาดก่อนหน้านี้ รวมถึง Fund Flow หลังต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และล่าสุดอีกประมาณ 398 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามได้รับการชดเชยจากแรงซื้อสุทธิของสถาบัน และยังแนะนำจับตากลุ่มพลังงาน เช่น PTT, PTTEP, TOP และ PTTGC เป็นต้น ที่คาดได้รับปัจจัยบวก/ลบ จากราคาน้ำมัน รวมถึงติดตามต่อเนื่อง 1) ประเด็นการประมูล 4G คาด ADVANC และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการวางโครงข่ายเสา เช่น CSS

ขณะที่ค่าเงินบาทมีทิศทางกลับมาแข็งค่า โดยเช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 33.36-33.39จากก่อนหน้านี้ที่ 33.50-33.60 และทิศทางเศรษฐกิจไทย ที่คาดมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

หุ้นแนะนำ: CENTEL

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ค.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน วาง Filter แนวรับที่ระดับ 1,495-1,500 จุด หากยืนได้ยังแนะนำ Trading ระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1520-1530 จุด ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่มี Momentum บวก เช่น BDMS และ HANA

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค ดัชนีตลาดทรงตัวบน MA10 (1,505) เป็นสัญญาณขาขึ้น หรือ BUY SIGNAL ทิศทางของตลาดยังมีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบ 1,520 ในระยะใกล้นี้ โดยภาพของ SET กำลังเคลื่อนตัวออกจากช่องทางของแนวโน้มลง

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,505-1,520

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร PTTGC และ TLUXE

Back to top button