PYLON พุ่งแรง 10% นิวไฮตั้งแต่เข้าตลาดฯ ชี้งานรัฐ-เอกชนหนุนกำไรหุ้นเสาเข็มโตทะลักปี 61

PYLON พุ่งแรง 10% นิวไฮตั้งแต่เข้าตลาดฯ ชี้งานรัฐ-เอกชนหนุนกำไรหุ้นเสาเข็มโตทะลักปี 61 โดย ณ เวลา 16.11 น. อยู่ที่ระดับ 17.70 บาท บวก 1.60 บาท หรือ 9.94% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 129.76 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ณ เวลา 16.11 น. อยู่ที่ระดับ 17.70 บาท บวก 1.60 บาท หรือ 9.94% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 129.76 ล้านบาท โดยปรับตัวสูงสุดนับตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 23.ธ.ค.2548

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เริ่มดูแลบริษัทเสาเข็มสามบริษัท ได้แก่ SEAFCO CRANE และ PYLON ซึ่งอยู่ในหมวดก่อสร้าง เนื่องจากคาดว่าบริษัทกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้อานิสงส์จากการขยายตัวของการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนของไทย ทั้งนี้ หลังจากที่ล่าช้ามานาน รัฐบาลก็ได้ตกลงทำสัญญาจ้างผู้รับเหมารายใหญ่ให้ก่อสร้างโครงการภาครัฐมูลค่ารวม 4.72 แสนล้านบาท  และตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอีกห้าปีข้างหน้าของรัฐบาลยังมีโครงการอื่นๆ มูลค่ารวมถึง 1.7 ล้านล้านบาท ตามมาอีกในปี 2019-2022

ทั้งนี้ โครงการที่รัฐบาลตกลงทำสัญญาจ้างแล้วคิดเป็นสัดส่วน 22% ของแผนทั้งหมด และจะเริ่มก่อสร้างในปี 2018 โดยโครงการหลักๆ ในแผนห้าปีของรัฐบาลได้แก่ โครงการรถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า และทางด่วนมอเตอร์เวย์ ทั้งนี้ ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เกิดความล่าช้าในส่วนของการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ การออกแบบโครงการ การขออนุมัติ และการเปิดประมูลในหลายๆ โครงการ ส่งผลให้หุ้นของผู้ให้บริการด้านการก่อสร้าง underperform ตลาดถึง 17% ในปี 2017 ด้านภาคเอกชน ก็เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว และเราประเมินว่าจะมีงานก่อสร้างอาคารสูง และโครงการขนาดใหญ่ในภาคเอกชนมูลค่ารวม 5.50 แสนล้านบาทเริ่มก่อสร้างในปี 2018 โดยคาดว่าจะเริ่มที่งานเจาะเสาเข็มก่อน

โดยงานก่อสร้างของหลายๆ โครงการเริ่มต้นมาตั้งแต่ไตรมาส 4/60 แต่คาดว่ารายได้รวมของบริษัทเสาเข็มทั้งสามบริษัทจะทรงตัวในปี 60 และคาดว่าจะโตถึง 34% ในปี 61 จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโครงการรถไฟฟ้า (สายสีส้ม ชมพู เหลือง และน้ำเงิน) เราคาดว่ากำไรของกลุ่มก็จะทรงตัวในปี 60F แต่คาดว่าจะโตถึง 68% ในปี 61 จากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น (รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจนครอบคลุมต้นทุนคงที่ โดยเฉพาะค่าเสื่อมราคา) ในขณะที่ต้นทุนยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ทั้งนี้ backlog ในปัจจุบันของทั้งสามบริษัทเสาเข็มที่ดูแลอยู่ (SEAFCO CRANE และ PYLON) ครอบคลุม 100% 21% และ 87% ของประมาณการรายได้ปี FY18F ตามลำดับ

บล.กสิกรไทย ระบุว่า  SET Index ปี 2561 มีเป้าหมายที่ Forward PER 15.5 D 16.0 เท่า 1,765 D 1,822 จุด มองเป็นปีแห่งการลงทุน การบริโภคของภาคเอกชน และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งหุ้นเด่นแห่งปีจะประกอบไปด้วย AMATA WHA PYLON BBL CPALL ROBINS SC PTT BCPG IVL

Daily Picks    Trading Target

AMATA           29.00

SC                    4.20

PYLON            18.00

โดยหุ้นที่กำไรน่าจะมีการฟื้นตัวดีต่อเนื่องในไตรมาส 4/60  อาทิ  PYLON มองว่ากำไรในงวดไตรมาส 3/60 จะเป็นจุดต่ำสุดไปแล้ว จากสัญญาณการใช้เครนเพิ่มขึ้นมาเป็น 13 ชุด ณ สิ้น ต.ค.60 และขึ้นต่อเป็น 16 ชุด ณ พ.ย.60 และคาดว่าจะขึ้นเป็น 20 ชุดใน ธ.ค.60 โดยในปี 2561 PYLON ได้เตรียมเครนไว้มากถึง 26 ชุดเพื่อรองรับงานที่จะเกิดขึ้นอย่างชุกชุมในปีหน้า ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญแนะนำซื้อ

Back to top button