พักรอเวลา

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังคงมีเรื่องราวมากมายให้ติดตามตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงให้ความสนใจเรื่องชาวบ้านชาวช่องอย่างไม่ลดละ เพราะยังมีประเด็นมันๆ ให้ขุดคุ้ยเป็นประจำทุกวัน บวกกับรูปแบบการขึ้นของดัชนีไม่มีอะไรสลับซับซ้อน รวมถึงท่าทีของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ก็ยังเป็นรูปแบบเดิมๆ จึงง่ายต่อการคาดเดาพอสมควรแบบนี้..เคาะซ้ายก็ดี เคาะขวาก็มัน พะยะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังคงมีเรื่องราวมากมายให้ติดตามตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงให้ความสนใจเรื่องชาวบ้านชาวช่องอย่างไม่ลดละ เพราะยังมีประเด็นมันๆ ให้ขุดคุ้ยเป็นประจำทุกวัน บวกกับรูปแบบการขึ้นของดัชนีไม่มีอะไรสลับซับซ้อน รวมถึงท่าทีของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ก็ยังเป็นรูปแบบเดิมๆ จึงง่ายต่อการคาดเดาพอสมควรแบบนี้..เคาะซ้ายก็ดี เคาะขวาก็มัน พะยะค่ะ

*เหมือนกับเรื่องที่ “โมนิก้า” จั่วหัวไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนว่า ตามตำราที่เรียนมาตั้งแต่สมัยอยู่ต่างประเทศ เขาพูดถึงเรื่อง ขึ้น 3 ลง 1 มันมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องดูเยอะพอสมควร จึงไม่อยากเท้าความให้เปลื้องพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะสิ่งที่ทุกคนต้องมองในเวลานี้เป็นเรื่องของการเคลื่อนตัวของดัชนีต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร? เพื่อกำหนดรูปแบบการเล่นให้กระชับพื้นที่ขึ้นกว่าเดิมนะคะ

*เนื่องจากดัชนีแสดงอาการชักกระตุกกลางอากาศให้เห็นเต็มลูกตา หลังจากทะยานทะลุแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา 1,800 จุด ขึ้นไปยืนถึงบริเวณ 1,813.17 จุดอย่างร้อนแรง สุดท้ายกลับอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 1,792.81 จุด ลบไป 2.64 จุด ด้วยมูลค่า 7.83 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการเทขายทำกำไรเพื่อปรับลดพอร์ตให้มีความคล่องตัวขึ้นกว่าเดิมนะซี

*ที่สำคัญคือคนที่ขายหนักเที่ยวนี้กลายเป็นฝรั่งตาน้ำข้าว สาดหุ้นออกมามากถึง 3.33 พันล้านบาท ขณะที่กองทุนตัวแสบเหลือซื้อหุ้นแค่ 600 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ซื้อเป็นพันล้านบาท ส่วนปอบผีฟ้ายังคงเล่นบทติ๊ดชึ่งซื้อๆ ขายๆ ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด โดยวานนี้เข้ามาเก็บหุ้นไปทั้งสิ้น 1.24 พันล้านบาท ส่วนแมงเม่าหันมาสวมบทชาวสวนด้วยการกว้านหุ้นเข้าพอร์ตไป 1.47 พันล้านบาท แต่ดัชนีก็ขึ้นไม่ได้แบบนี้..มันหมายความว่าอะไร? ลองไปคิดกันดูนะจะบอกให้

*เหมือนกับการวิ่งขึ้นไม่หยุดของหุ้นดาวเด่น AOT บอกให้เดี๊ยนรู้ว่า นักเล่นในประเทศเป็นคนเข้าเก็บหุ้นอย่างบ้าระห่ำหุ้นถึงสวนกระแสขึ้นมาปิดที่ 74.25 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.12% ด้วยมูลค่า 9.58 พันล้านบาท “โมนิก้า” กลับมองเป็นเกมวิ่งผลัดธรรมดาที่เห็นกันมานาน แต่เผอิญหุ้นมีสตอรี่ดีคอยหล่อเลี้ยงเป็นระยะ ก็เลยยังไม่ถึงคนสุดท้ายที่เข้ามารับไม้ก็เท่านั้นเอง..อิอิอิ

*ตัวอย่างดังกล่าวดูได้จาก BJC ถูกแรงเทขายกดลงมาหลายวันติดต่อกัน จนล่าสุดหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 61 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 4.70% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่าหุ้นกำลังถูกลดจากพอร์ตนักลงทุนสถาบัน และการถูกเทขายเที่ยวนี้น่าจะยังไม่จบลงง่ายๆ ส่งผลให้คนที่ถือหุ้นเกิดอาการชักดิ้นชักงอกันเป็นแถวแบบนี้..อยู่เฉยๆ เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อนดีกว่านะคะ

*ส่วนในรายของพ่อดอกมะลิ JAS ยังคงมีทีเด็ดออกมาให้แฟนคลับได้ร้องกรี๊ดกร๊าดกันไม่หยุดหย่อน “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ต้องดูกันยาวๆ อย่าเพิ่งเชื่อว่าทุกอย่างจะจบลงเพียงเท่านี้! เพราะการขึ้นมาปิดที่ 7.85 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่า 1.55 พันล้านบาท มันเป็นช็อตยั่วน้ำลายที่นักเล่นต้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ TISCO ทะยานขึ้นมาปิดที่ 93.25 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมเข้ามาไล่ราคาก่อนประกาศงบเป็นประจำทุกปี แถมการเทรดเที่ยวนี้ยังอยู่บนค่า P/E 12 เท่า จึงน่าจะมีรายการเคาะขวาคว้าหุ้นต่อไปอีกหนึ่งวัน หลังจากหุ้นบวกต่อเนื่อง 4 วันติดมาแล้ว ก็น่าจะบวกต่อเป็นวันที่ 5 นะตัวเอง

*เม้าท์ถึงหุ้นใหญ่เยอะพอสมควร “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูหุ้นเล็กหัวใจฟรุ้งฟริ้งอย่าง CHO กันบ้างดีกว่า เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2 บาท บวกไป 0.23 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่า 262 ล้านบาท มันมาจากสตอรี่เทิร์นอะราวด์เป็นประเด็นสำคัญ ไล่เรียงตั้งแต่เรื่องการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายต่างๆ เกี่ยวกับโครงการขนาดใหญ่หมดไปแล้ว ถัดมาเป็นการส่งมอบรถเมล์ NGV ล็อตแรก 100 คัน ฯลฯ การขึ้นรอบนี้จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ UKEM ทะยานขึ้นมาปิดที่ 2 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 6.95% ด้วยมูลค่า 134 ล้านบาท น่าจะมาจากสตอรี่เติบโตเป็นทุนเดิม ผสมผสานกับการใช้วิศวกรรมทางการเงินเป็นตัวหนุน หรือแม้กระทั่งโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2561 ล้วนเป็นตัวเชื่อมที่ทำให้เดี๊ยนต้องหันมามองหุ้นตัวนี้เป็นระยะ เพราะเผลอทีไรวิ่งระเบิดระเบ้อทุกที..จำได้ไหมเอ่ย?

Back to top button