HMPRO บวก 4.51% แรงสุดในรอบ 16 ปี ลุ้นกำไร Q4/60 นิวไฮแนะซื้อเป้า 14.10 บ.

HMPRO บวก 4.51% แรงสุดในรอบ 16 ปี ลุ้นกำไร Q4/60 นิวไฮ จากมาตรการช็อปช่วยชาติ-จัดโปรส่งเสริมการขาย โดย ณ เวลา 11.53 น. อยู่ที่ระดับ 13.90 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4.51% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 581.74 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ณ เวลา 11.53 น. อยู่ที่ระดับ 13.90 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4.51% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 581.74 ล้านบาท ราคาหุ้นปรับตัวสูงสุดในรอบ 16 ปี หรือนับตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2544

บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะ”ซื้อ” HMPRO จากผลดำเนินงานที่ยังมีโมเมนตัมโตต่อเนื่อง บวกกับ ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside จากมูลค่าพื้นฐานปี 2561 (อิงวิธี DCF) ที่ 14.10 บาท และคาดให้ Div. Yield ปีละราว 2.5% ด้วยความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั้งในกทม.และต่างจังหวัด โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวและหัวเมืองใหญ่ที่ปรับตัวดีขึ้น บวกกับ HMPRO จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่อง เช่น Hmpro Expo ครั้งที่ 26 (17-26 พ.ย. ซึ่งสร้างยอดขายราว 670 ล้านบาท สูงกว่าช่วง ไตรมารส 4/59 ที่ 640 ล้านบาท), Homepro Fair เชียงใหม่ (15-24 ธ.ค.)

อีกทั้งยังได้อานิสงส์จากมาตรการช็อปช่วยชาติ 1.5 หมื่นบาทในช่วงวันที่ 11 พ.ย.-3 ธ.ค. 60 ระยะเวลารวม 23 วัน ยาวกว่าปีก่อนที่มีผล 18 วัน จึงทำให้ช่วง ไตรมารส4/60คาดยอดขายสาขาเดิมยังบวกต่อเป็นไตรมาสที่สองราว 3%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อบวกกับ การรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ของโฮมโปรและเมกาโฮมทั้งในไทยและมาเลเซียที่เพิ่มขึ้น โดยช่วง ไตรมารส4/60เปิดโฮมโปรที่มาเลเซียอีกแห่งที่ Johor Bahru จึงคาดยอดขายรวมและรายได้อื่นๆ จะโต 7.1%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 6.7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดเพิ่มขึ้นจาก 26.2% ในช่วง ไตรมาส4/59เป็น 26.5% และ SG&A/Sales คาดลดลงจาก 23.1% ในช่วงไตรมาส 4/59เป็น 22.9% จากผลประหยัดต่อขนาดหลังมีสาขาเพิ่มขึ้นทั้งเมกาโฮมในไทยและโฮมโปรที่มาเลเซีย จึงทำให้ช่วงไตรมาส 4/60คาด HMPRO จะสามารถสร้างสถิติกำไรสุทธิรายไตรมาสสูงสุดที่ 1,424 ล้านบาท เติบโต 7.9%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และหนุนทั้งปี 2560 มีกำไรสุทธิ 4,784 ล้านบาท โต 16%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามประมาณการได้

แม้ปี 2561 คาด HMPRO จะยังชะลอแผนขยายสาขาโฮมโปรและเมกาโฮมในไทยเหลือเพียง 1-2 แห่ง จากในอดีตที่ขยายสาขาราว 3-4 แห่ง (ขณะที่คาดยังคงขยายสาขาในมาเลเซียปีละ 3-4 แห่งเพื่อให้เกิดผลประหยัดต่อขนาด) แต่ด้วยกลยุทธ์ปรับปรุงประสิทธิภาพภายในบริษัทและเพิ่มสัดส่วนยอดขาย Direct Sourcing โดยจะยกระดับคุณภาพ Private Brand ให้แตกต่างจาก Natural Brand เพื่อเพิ่มศักยภาพทำกำไร รวมทั้งพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เช่น เปิดสาขารูปแบบ HMPRO S ซึ่งเน้นจำหน่ายสินค้าซ่อมแซมและสินค้าใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อตอบสนองต่อลูกค้าที่อยู่อาศัยในพื้นที่หนาแน่น บวกกับ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและกำลังซื้อในไทยยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงทำให้คาดปี 2561 HMPRO จะมีกำไรสุทธิ 5,308 ล้านบาท ยังคงเติบโต 11.0%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

Back to top button