BCP ลุ้นกำไร Q4/60 สดใสรับอุปสงค์น้ำมันโต พ่วงอัพไซด์สูงปรี๊ด

BCP ลุ้นกำไร Q4/60 สดใสรับอุปสงค์น้ำมันโต พ่วงอัพไซด์สูงปรี๊ด กางแผนปี 61 ทุ่มงบ 1 หมื่นล้านบาทปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น-เพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันเป็นระดับ 130,000-135,000 บาร์เรล/วัน จากเดิม 120,000 บาร์เรล/วัน


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ผลประกอบการในไตรมาส 4/60 จะเติบโตดี เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว อีกทั้งบริษัทยังเตรียมทุ่มงบกว่าหมื่นล้านในการปรับปรุงและเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันเป็นระดับ 130,000-135,000 บาร์เรล/วัน

ขณะที่ราคาหุ้น BCP ปิดตลาดวานนี้ (11 ม.ค. 61) ที่ระดับ 42 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.82% สูงสุดที่ระดับ 42.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 41.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 607.92 ล้านบาท

ด้านนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายกลั่นน้ำมันเฉลี่ย 102,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนหน้า เนื่องจากมีแผนหยุดซ่อมบำรุงในช่วงเดือน พ.ค.เป็นเวลา 45 วัน และประเมินราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปีนี้อยู่ที่ระดับกว่า 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าระดับเฉลี่ยกว่า 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปี 2560 จากความต้องการใช้ของโลกที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงความเสี่ยงจากปัญหาการเมืองในตะวันออกกลาง

สำหรับการลงทุนบริษัทตั้งเป้าหมายจะใช้เงินราว 1 หมื่นล้านบาท สำหรับธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ในช่วงปี 61-62 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากขึ้น รวมถึงเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันเป็นระดับ 130,000-135,000 บาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่มีกำลังการกลั่นอยู่ระดับ 120,000 บาร์เรล/วัน

ขณะที่ตั้งงบลงทุนอีก 1.7 พันล้านบาท สำหรับการลงทุนธุรกิจการตลาดค้าปลีกน้ำมันในปีนี้ แบ่งเป็นการขยายสถานีบริการน้ำมันอีก 80 แห่ง เป็น 1,200 แห่งในสิ้นปี 61 ใช้เงินลงทุน 1.5 พันล้านบาท และอีก 200 ล้านบาท จะใช้สำหรับธุรกิจค้าปลีก

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีปริมาณขายน้ำมันในปีนี้ เพิ่มขึ้น 10% จากปี 60 ที่มีปริมาณขายน้ำมันเพิ่มขึ้นเกือบ 7% ซึ่งดีกว่าตลาดรวมที่เติบโตได้เพียง 2.5% โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดน้ำมันเป็นอันดับ 2 ที่ 15.4% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ระดับ 15.2%

นอกจากนี้บริษัทยังศึกษาการเข้าไปลงทุนสร้างสถานีบริการน้ำมันในกลุ่ม CLMV เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1 แห่งในเมียนมา ซึ่งได้เปิดดำเนินการมาแล้วเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการลงทุน

ส่วนในปีที่ผ่านมาบริษัทมีกำลังการกลั่นน้ำมันระดับ 111,600 บาร์เรล/วัน ดีกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ระดับ 111,000 บาร์เรล/วัน และค่าการกลั่น (GRM) ที่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมัน คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4/60 คาดว่าจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นมาก

อย่างไรก็ตาม ด้านธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ในฟิลิปปินส์นั้น ยังคงดำเนินการตามแผนต่อไป ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้บริษัทเริ่มกลับมามองโอกาสการขยายลงทุนในประเทศใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ส่วนการเข้าร่วมประมูลแหล่งปิโตรเลียมบงกช และเอราวัณ ที่คาดจะมีขึ้นในปีนี้ บริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจ โดยต้องรอศึกษาเอกสารเชิญชวนประมูล (TOR) ที่จะออกมาก่อน

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนผลักดันบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (BBGI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไตรมาส 3/61 โดยปัจจุบันได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อเตรียมยื่นแบบเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) แล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะกระจายหุ้นราว 20-30%

อีกทั้ง ยังมีแผนนำบริษัท บางจากรีเทล จำกัด (BCR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจนอนออยล์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอีก 5-7 ปีข้างหน้า หลังจากที่ BCR ได้เริ่มจัดตั้งขึ้นในช่วง 1-2 ปี โดยมีธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่ ร้านกาแฟอินทนิล,ร้านสพาร์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหาร “เลมอน คิทเช่น” เพื่อระดมทุนใช้รองรับการขยายงาน

“เราจะระดมทุนเพื่อนำมาขยายธุรกิจใช้ต่อยอดสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับในอุตสาหกรรมอาหาร เวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง ซึ่งเราศึกษาร่วมกับพันธมิตรด้วย การตั้งโรงงานก็จะอยู่ในพื้นที่ EEC ซึ่งน่าจะเห็นได้เร็ว ๆ นี้” นายชัยวัฒน์ กล่าว

สำหรับ BBGI เป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมระหว่างธุรกิจชีวภาพของบริษัท และธุรกิจเอทานอลของ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) โดยบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 60% และ KSL ถือหุ้น 40% โดยมีสินทรัพย์ประมาณ 1.5-2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย การถือหุ้น 85% ในบริษัท บางจากไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด (BBE) ผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง 1.5 แสนลิตร/วัน ,การถือหุ้น 70% ในบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ผู้ผลิตไบโอดีเซล 8.1 แสนลิตร/วัน,

รวมถึงการถือหุ้น 21% ในบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (UBE) ผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง 4 แสนลิตร/วัน และการถือหุ้น 100% ในโรงงานเอทานอลในพื้นที่น้ำพอง จ.ขอนแก่น และจ.กาญจนบุรี รวม 3.5 แสนลิตร/วัน และมีแผนขยายเป็น 5 แสนลิตร/วันซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BCP ที่ราคาเป้าหมาย 49.25 บาทต่อหุ้น โดยมองแนวโน้มไตรมาส 4/2560 จะได้ส่วนช่วยจากอุปสงค์ของน้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว

สำหรับแนวโน้มปี 2561 แม้บริษัทมีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่ แต่ได้ส่วนช่วยจากค่าการกลั่นที่มีแนวโน้มยืนอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากส่วนของน้ำมันอากาศยานและน้ำมันเตาที่มีอุปทานอยู่ในระดับสูง อีกทั้ง รับรู้รายได้ธุรกิจไฟฟ้าใต้พิภพจากอินโดนีเซียที่เข้ามาแบบเต็มปี

Back to top button