SPALI ลั่นรายได้ปี 61 เข้าเป้า 2.6 หมื่นลบ. เล็งเปิด 35 โครงการใหม่ มูลค่า 4 หมื่นลบ.

SPALI ลั่นรายได้ปี61 เข้าเป้า 2.6 หมื่นลบ. เล็งเปิด 35 โครงการใหม่ มูลค่า 4 หมื่นลบ. แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ


นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2561 จำนวน 35 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ

โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2561 ไว้ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในปีนี้จะมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จทยอยโอนอีกจำนวน 8 โครงการ อีกทั้งยังมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้ภายในปีนี้อีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมด ณ สิ้นปี 60 ที่ 3.98 หมื่นล้านบาท

ขณะที่วางเป้าหมายยอดขายปีนี้ไว้ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 3.07 หมื่นล้านบาท โดยจะเน้นกลุยุทธ์ทางการตลาดด้านสื่อออนไลน์ผ่านทาง Facebook, Line, Instragram และเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อสื่อสารถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และนำเสนอโปรโมชั่นใหม่ๆ ตลอดทั้งปี พร้อมเตรียมเปิดการขายสินค้าคอนโดมิเนียมในประเทศไทยออกสู่ตลาดโลกมากขึ้น

นอกจากนี้ยังการตั้งงบซื้อที่ดินในปี 2561 อยู่ที่ 9 พันล้านบาท พร้อมมองหาโอกาสขยายตลาดในต่างประเทศ เช่น การร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนไปแล้ว 6 โครงการ และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในประเทศกลุ่มอาเซียนอื่นๆ

ด้านภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ไนปีนี้ คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปีก่อน จากปัจจัยการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัว ประกอบกับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีการลงทุนต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและเริ่มกลับมาสู่การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

สำหรับตลาดในกลุ่มระดับบนมองว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่นำมาช่วยในกระบวนการผลิต หรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์รูปแบบการอาศัยในยุคตลาด 4.0

ส่วนโครงการมิกซ์ยูสบนถนนสาทร ทำเลสถานฑูตออสเตรเลียเดิม จะใช้ชื่อโครงการว่า “Supalai Icon” พร้อมทั้งได้ปรับเพิ่มมูลค่าโครงการเป็น 1.8-2 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ 1.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการปรับแบบโครงการ ทำให้มูลค่าของโครงการเพิ่มขึ้น โดยภายในโครงการจะประกอบไปด้วยคอนโดมิเนียมระดับ ลักซ์ชัวรี่ อาคารสำนักงานเกรดเอ ศูนย์การค้าที่เป็นแหล่งรวมอาหารและช้อปปิ้ง และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ บนพื้นที่รวมกว่า 100,000 ตารางเมตร

ด้านคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ บริษัทจะเป็นผู้พัฒนาเอง และในส่วนของศูนย์การค้าและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ บริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความชำนาญในการพัฒนาโครงการดังกล่าว ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบการแบ่งขายที่ดินไปให้พัฒนาหรือการให้เช่าที่ดินระยะเวลา 30 ปี

โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรไทยที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกในเรื่องของรูปแบบการพัฒนาและแนวทางในการจัดสรรที่ดินของโครงการ คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินไตรมาส 3/61 ส่วนการเริ่มก่อสร้างโครงการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในครึ่งปีแรกของปี 61 และจะใช้ระยะเวลา 3 ปีในการก่อสร้าง ซึ่งภายในปลายเดือนม.ค. 61 จะมีการทำประชาพิจารณ์ของรูปแบบโครงการ และคาดว่าจะยื่นขออนุญาตรับรองการวิเคราะห์ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมได้ในช่วงหลังสงกรานต์ของปี 61

Back to top button