KAsset เปิดขาย 2 กองทุนถึง 22 ม.ค.นี้

KAsset เปิดขาย 2 กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ อายุ 6 เดือน และ 1 ปี ชูผลตามแทน 1.35% ต่อปี และ 1.60% ต่อปี ตามลำดับ ระหว่าง 16-22 ม.ค.นี้


นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ บลจ.กสิกรไทย (KAsset) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 16 – 22 ม.ค.61 บลจ. กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน EN (KFF6MEN) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.35% ต่อปี

รวมทั้งกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี DZ (KFF1YDZ) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.60% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

ด้านมุมมองการลงทุนในตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ของประเทศในเอเชียยังมีความน่าสนใจมากกว่าตราสารหนี้ประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯมีต่ำกว่า

รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียส่วนใหญ่มีเสถียรภาพดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการของบลจ.กสิกรไทยที่เปิดเสนอขายเป็นประจำทุกสัปดาห์ มีการลงทุนในตราสารหนี้ประเทศจีนและกาตาร์ซึ่งให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจ

โดยเฉพาะตราสารหนี้จีนที่ปัจจุบันบลจ.กสิกรไทยสามารถเข้าไปลงทุนได้โดยตรง ทั้งนี้มองว่าตราสารหนี้จีนจะสามารถเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้ เนื่องจากมีอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ รวมทั้งเศรษฐกิจจีนมีความแข็งแกร่ง

ในปี 2561 คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะสามารถเติบโตได้ในระดับสูงที่ 6.8% ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการของภาครัฐ และมาตรการทางการเงินที่ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง” นายนาวินกล่าว

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่แน่นอน โดยสามารถเลือกลงทุนเป็นเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี

สำหรับ กองทุน KFF6MEN ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝากประเทศกาตาร์ ได้แก่ เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank และเงินฝาก Commercial Bank of Qatar

นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในบัตรเงินฝากประเทศจีน ได้แก่ บัตรเงินฝาก China Merchants Bank, บัตรเงินฝาก Bank of Communications, บัตรเงินฝาก Shanghai Pudong Development Bank และบัตรเงินฝาก China Construction Bank ด้านกองทุน KFF1YDZ ที่มีอายุโครงการ 1 ปี เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝากประเทศกาตาร์ ได้แก่ เงินฝาก Commercial Bank of Qatar และเงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank

ขณะเดียวกันยังคาดว่าจะลงทุนในบัตรเงินฝากประเทศจีน ได้แก่ บัตรเงินฝาก China Merchants Bank, บัตรเงินฝาก Bank of Communications, บัตรเงินฝาก Shanghai Pudong Development Bank และบัตรเงินฝาก China Construction Bank เช่นเดียวกัน โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 500 บาท

Back to top button