HANA ธุรกิจแข็งแกร่ง แม้เศรษฐกิจฟื้นช้าทิศทางกำไรขาขึ้น เน้นลงทุนเมื่ออ่อนตัว

บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ มองว่าทิศทางผลการดำเนินงานของ HANA จะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นนับจากนี้ อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุนจากทิศทางเงินบาทที่อ่อนค่า อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเริ่มใกล้ Fair value ปี 58 ที่ 48 บาท อิงวิธี DCF (WACC 9.69%) แล้วจึงแนะนำ ซื้อ เมื่อราคาอ่อนตัว


บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (20 พ.ค.) ว่าสำหรับแนวโน้มธุรกิจของบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ในปี 2558 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 57 หนุนด้วยการเติบโตทั้งธุรกิจในกลุ่ม IC และ PCBA ในกลุ่มยานยนต์และ smart phone นอกจากนี้สินค้ากลุ่มการแพทย์จะเติบโตมหาศาลในปี 58 เฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์เครื่องช่วยการได้ยิน (Hearing aids) ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้เพิ่มพนักงานผลิตสินค้าไว้แล้วจาก 50 คน เป็น 600 คน อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้ลูกค้าใหม่ๆ สำหรับโรงงานลำพูนเฟส 2 เป็นสินค้าในกลุ่มคอมพิวเตอร์ ที่ได้เริ่มดำเนินการผลิตแล้วในช่วงไตรมาส 2/58

อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจของประเทศจีนเติบโตช้าลงในปี 58 มีส่วนกดดันให้ยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ลดลง ทำให้ภาพรวมความต้องการใช้ชิ้นส่วนฯ ทั่วโลกลดลงในระยะสั้น แต่คาดว่าแนวโน้มคำสั่งซื้อจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดีอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาส 3/58 เป็นต้นไป จากการเข้าสู่ช่วง high season ของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนฯ ทั่วโลก

ทั้งนี้คงประมาณการกำไรปี 58-59 โดยคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/58 จะเติบโตจากงวดก่อนจากการย่างก้าวเข้าสู่ช่วงฤดูกาลส่งออกของอุตสาหกรรมฯ บวกกับแนวโน้มคำสั่งซื้อจากผลิตภัณฑ์เครื่องช่วยการได้ยิน (Hearing aids) จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯ ตั้งแต่ไตรมาส 2/58 เป็นต้นไป

สำหรับแนวโน้มกำไรจากการดำเนินงานปี 58 จะเติบโตถึง 23.9% จากปีก่อน ขับเคลื่อนด้วยแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อจากลูกค้าเก่า และการเน้นหาลูกค้าใหม่ๆ เพื่อรองรับการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานลำพูนเฟส 2 เต็มที่ตั้งแต่ไตรมาส 2/58 เป็นต้นไป

โดยผลิตภัณฑ์ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในปี 58 ยังคงเป็นสินค้ากลุ่มยานยนต์ ได้แก่ อุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆ และหลอดไฟ LED รวมไปถึงอุปกรณ์เซ็นเซอร์และหน้าจอ LED สำหรับสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ การฟื้นตัวของผลิตภัณฑ์กลุ่มคอมพิวเตอร์ยังช่วยหนุนคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ Touchpad สำหรับ Laptop และ Memory stick ให้ฟื้นตัวด้วยเช่นกัน

ขณะที่ทิศทางผลการดำเนินงานจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นนับจากนี้ อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุนจากทิศทางเงินบาทที่อ่อนค่า อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเริ่มใกล้ Fair value ปี 58 ที่ 48 บาท อิงวิธี DCF (WACC 9.69%) แล้วจึงแนะนำ ซื้อ เมื่อราคาอ่อนตัว

Back to top button