หุ้นเอเชียบวกเช้านี้ รับตลาดนิวยอร์กสดใส หลังสภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกม.งบประมาณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งนำไปสู่การยุติภาวะการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮด้วยเช่นกัน

โดย ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 23,924.40 จุด เพิ่มขึ้น 108.07 จุด, +0.45% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 32,606.14 จุด เพิ่มขึ้น 212.73 จุด, +0.66% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 11,243.49 จุด เพิ่มขึ้น 12.03 จุด, +0.11% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,510.35 จุด เพิ่มขึ้น 8.24 จุด, +0.33% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,577.22 จุด เพิ่มขึ้น 7.79 จุด, +0.22% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,836.10 จุด เพิ่มขึ้น 2.95 จุด, +0.16% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 8,952.81 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด, +0.02%ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,504.34 จุด เพิ่มขึ้น 2.98 จุด, +0.09%

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 266 ต่อ 150 เสียง ให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ก.พ.

โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 81 ต่อ 18 เสียง ให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐเช่นกัน

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวฉบับนี้จะถูกส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ด้าน นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ ขณะที่มีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า คณะกรรมการบริหารของ BOJ จะคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป แม้ว่าจะมีสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ในขณะที่เงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ เพื่อจับสัญญาณบ่งชี้ถึงทิศทางการดำเนินนโยบายของ BOJ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ BOJ ได้ปรับลดปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งนักลงทุนต่างมองว่าการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณการคุมเข้มนโยบายในอนาคต